'เต้ย' สาวหน้าใส ไม่กลัวความ 'โสด'

ตอนนี้เต้ยมีผลงานอะไรบ้าง?

ตอนนี้ถ่ายละคร “สามหนุ่มเนื้อทอง”  ทางช่อง 3 อยู่  แล้วก็เป็นพิธีกรรายการ “ซิสเตอร์ เดย์” และออกซิงเกิ้ลเพลง “ชอบที่เธอยิ้มมา” อยู่ในอัลบั้ม “เลิฟ สเตตัส”  สำหรับ “สามหนุ่มเนื้อทอง” เป็นละครเรื่องแรกที่เล่นนอกบ้าน ก่อนหน้านี้จะเล่นของในค่าย “จีเอ็มเอ็ม มีเดีย” และในเครือแกรมมี่อย่าง “เอ็กแซ็กท์”  การทำงานนอกบ้านทำให้เราได้เจอเพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ ที่น่ารักมาก ๆ ให้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ในเรื่องของการแสดงที่เราไม่เคยเจอ เต้ยดีใจนะที่ได้มาเล่นเรื่องนี้ หนูเคยถาม พี่จ๋า-ยศสินี ณ นคร ว่าทำไมถึงเลือกหนูมาเล่นบทนี้ เขาบอกว่าคาแรกเตอร์บางอย่างของเต้ยมีความติงต๊อง ที่เข้ากับบทลำเภา เล่นแล้วรู้สึกสนุกมาก ต่อล้อต่อเถียงดี

ระยะหลังเหมือนเต้ยหันมารับงานละครมากขึ้น?

หนูรับทีละเรื่องนะ เนื่องจากเรียนอยู่ด้วย การรับงานละครของเต้ยอยู่ที่โอกาสที่ผู้ใหญ่หยิบยื่นให้เรามากกว่าและควรจะ เหมาะกับเวลาในการเรียนของหนู เพราะหนูต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่กระทบกับเวลาเรียนหนู ก็เลยรับเล่นค่ะ

ที่ผ่านมาผ่านงานละครมา 5 เรื่องแล้ว คิดว่าเราสั่งสมประสบการณ์ในเรื่องของการแสดงอีกมั้ย?

มี “อุบัติรักข้ามขอบฟ้า” ภาค 1 และ 2, ชิงชัง, ดอกรักริมทาง และช็อคโกแลต 5 ฤดู หนูว่าประสบการณ์การแสดงของหนูยังน้อยนะ การที่เราจะเก่งจริง ๆ ในอาชีพใดอาชีพหนึ่ง ต้องอาศัยประสบการณ์มากกว่านี้ เต้ยว่านี่มันก็แค่เพิ่งเริ่มต้นแค่นั้นเอง เต้ยเพิ่งอยู่ในวงการมา 4-5 ปีเอง ก็ค่อย ๆ เรียนรู้ไปดีกว่า

ส่วนใหญ่เต้ยจะได้รับแต่บทใส ๆ รู้สึกจำเจบ้างหรือเปล่า?

รู้สึกเหมือนกัน ก็มีพูดกับเพื่อน ๆ เหมือนกันว่าได้แต่บทคล้าย ๆ เดิม แต่ด้วยความที่เราเตี้ยด้วยมั้งเลยได้แต่บทแบบนี้ แต่ก็มีผลงานที่พลิกคาแรกเตอร์เต้ยออกไป แต่ก็ยังเป็นเด็กอยู่ “บันทึกกรรม” ตอน “มั่นใจคนไทยเกิน 1 ล้านคนเกลียดเมธาวี” ฉายไปแล้ว เป็นผลงานที่เต้ยชอบมาก คลิปไปดูในยูทูบได้ คนดูแล้วจะได้ข้อคิด ถามว่าเต้ยอยากลองบทไหน เดี๋ยวจะได้ลองแล้วค่ะ เป็นงานภาพยนตร์ แต่ยังบอกอะไรไม่ได้ แต่เป็นเรื่องที่เราฟังพล็อตปุ๊บแล้วอยากทำเลย ฉีกจากงานอื่น ๆ ที่ผ่านมาของเต้ยแน่นอน

ถ้าเป็นไปได้เต้ยอยากมาเอาดีด้านงานละครเลยมั้ย?

ความใฝ่ฝันจริง ๆ ของเต้ยไม่ได้มาด้านงานบันเทิงนะ มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับตัวเต้ย และเต้ยรู้สึกว่าการที่มาทำตรงนี้ มันทำให้หนูได้อะไรเยอะมาก ถ้าถามว่าจะเอาดีด้านงานละครมั้ย หนูจะตอบว่าก็จะพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด เพราะหนูไม่รู้ว่าจะได้ทำงานตรงนี้ไปอีกนานแค่ไหน จริง ๆ เต้ยชอบทำเบื้องหลัง เพราะเรียนเกี่ยวกับด้านนี้ด้วย หนูไปถ่ายรายการ “แฮงค์โอเว่อร์” กับพี่ย้ง-ทรงยศ ผู้กำกับภาพยนตร์ “ท็อป ซีเครท” ก็จะแอบอัดวิดีโอเอาไว้ มีอาศัยศึกษางานเบื้องหลังจากพี่ย้งตลอด

ในส่วนของงานพิธีกรล่ะเป็นอย่างไรบ้าง?

งานพิธีกรเป็นงานที่ยากสำหรับเต้ย เต้ยพูดไร้สาระได้ แต่ให้พูดเป็นการเป็นงานไม่ค่อยได้ แรก ๆ เต้ยไม่รู้เทคนิคว่าจำแค่ประเด็นก็พอ เราก็จำไปหมดเลย  ก็ตกใจว่าทำไมพี่โอปอล์-ปาณิสรา, พี่เจน-เจนสุดา และ พี่คริส หอวัง ที่ทำรายการ “ซิสเตอร์ เดย์” ถึงได้พูดเก่งจัง แต่โชคดีที่ได้ทำงานกับคนเก่ง เราก็จำวิธีการรวบสรุปสคริปต์ได้ คิดว่าเราต้องพัฒนางานด้านนี้อีกเยอะ จริง ๆ มีคนติดต่อให้ไปเป็นพิธีกรเดี่ยว เราก็แบบ โอ๊ย!จะได้มั้ย ก็อยากไปทำดู แต่ก็ยอมรับว่าเป็นงานที่ไม่ถนัดเท่าที่ควร แต่เต้ยว่าการทำงานพิธีกรทำให้เต้ยจัดระบบความคิดความอ่านได้ดีมากขึ้นนะ

งานเพลงที่ได้ลองออกซิงเกิ้ลด้วยล่ะ?

ทำไมหนูทำงานหลายด้านจัง (ยิ้ม) ก็ดีใจที่ได้รับโอกาสดี ๆ เยอะ เต้ยเคยพูดไว้ว่างานเพลงคงจะเป็นงานชิ้นท้าย ๆ ที่เต้ยจะทำ แต่พอพี่ที่จีเอ็มเอ็มทีวี ชวนให้ทำเราก็ลองทำดู ตอนแรกไม่คิดจะจริงจังขนาดนี้ ก็แค่ไปร้องซิงเกิ้ลหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าต้องขึ้นไปร้องเพลงบนเวที เต้ยไม่ชินมาก แล้วก็ให้ร้องสด มีร้องเพี้ยนด้วย (หัวเราะ)  กระแสตอบรับดีค่ะ ก็ดีใจนะ เวลาได้ยินคนเปิดเพลงของหนูก็เขินอะ คิดว่าใช่เสียงเราเหรอ ถามว่าถ้ามีโอกาสจะออกเป็นอัลบั้มมั้ย คงไม่อะค่ะ ขอไปแจม ๆ เขาแบบนี้ดีกว่า

ก่อนหน้านี้เหมือนเต้ยฮอตมาก แต่ช่วงหลังเหมือนกระแสของเต้ยแผ่วลง เต้ยคิดมากมั้ย?

หนูไม่คิดมากเลย มันก็เป็นไปตามธรรมชาติ หนูเป็นคนยอมรับความจริงนะ โดยส่วนตัวเต้ยก็ทำงานตลอด อีกอย่างหนึ่งก่อนหน้านี้ที่เต้ยเบรก ๆ งานไป เป็นเพราะเราเน้นเรื่องเรียน ช่วงนั้นหนูเรียนที่ มศว กำลังจะขึ้นปี 4 ก็จะบอกแม่ว่า ถ้าบางงานติดเรื่องเรียนก็จะไม่รับ แต่เร็ว ๆ นี้จะจบแล้วค่ะ

ทำไมเต้ยถึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้?

จริง ๆ แล้วหน้าที่หลัก ๆ ในวัยของเต้ยตอนนี้คือเรียน คุณพ่อคุณแม่จะสอนให้เราใช้ชีวิตด้วยตัวเอง เขาให้อิสระทางความคิดและการตัดสินใจของเต้ย แต่ไม่ได้ปล่อยปละเรา เหมือนท่านคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ เพียงแต่เต้ยรู้ว่าลึก ๆ แล้วพ่อแม่ก็คงอยากให้เราเรียนจบ หนูก็เลยไม่ทิ้งเรื่องนี้ ก็แบบเรียนให้จบไปเลยทีเดียว แล้วลุยงานไปเลย

ช่วงที่งดรับงานแบบนี้ เสียโอกาสไปเยอะมั้ย?

ไม่นะ หนูว่าถ้างานไหนเหมาะสมกับเรา เดี๋ยวเขาก็จะติดต่อเรามาเอง แต่ตอนนั้นก็มีงานดี ๆ ให้ทำอยู่ตลอดนะ เพียงแต่อาจจะไม่ใช่ละครหลังข่าวยาว ๆ แค่นั้นเอง

ล่าสุดถ่ายแบบเซ็กซี่ให้กับนิตยสารฉบับหนึ่ง หลายคนมองว่าเต้ย อยากเรียกกระแสให้ตัวเองหรือเปล่า?

หนูไม่เคยคิดแบบนั้นเลย กระแสตอบรับกับภาพนี้ เพื่อน ๆ ก็จะแบบแซว เราก็จะบอกว่ามันเป็นภาพหลอกลวง เต้ยก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้นะ ก็มีตกใจแบบเรามีขนาดนี้เลยเหรอ แต่ก็โอเคทำให้เต้ยพอมีเชปขึ้นมาบ้าง (หัวเราะ) ก็แปลกนะที่ไม่มีคนติดต่อให้ไปถ่ายแบบแนวนี้เพิ่ม  ถึงจะมีเต้ยก็คงไม่รับ เพราะเราไม่ใช่คนเซ็กซี่อะไร แต่การถ่ายแบบแนวนี้ก็ทำให้มีคนติดต่อให้เต้ยไปทำงานที่หลากหลายขึ้นนะ

ตอนนี้หัวใจเต้ยเป็นอย่างไรบ้าง ความสัมพันธ์กับ ฌอห์น จินดาโชติ เป็นยังไงกันแน่?

ก็ไม่เป็นยังไง พี่ฌอห์นเป็นพี่ที่ดี มีอะไรก็ปรึกษาเขาได้ เขามีอะไรก็คุยกับเต้ยได้เหมือนกัน แต่ไม่ได้คุยกันตลอด ถามว่าความสัมพันธ์เป็นพี่น้อง หรือเป็นคนพิเศษที่คุยกัน คือก็เป็นพี่น้องและเป็นคนที่พิเศษขึ้นมาหน่อย แต่เราไม่ได้คุยกันทุกวันแบบที่ทุกคนเข้าใจ เอาเป็นว่าเรารู้ว่ายังไงคนนี้ก็เป็นคนที่หวังดีกับเรา หนูเองก็หวังดีกับเขาเหมือนกัน

มีโอกาสที่จะพัฒนาไปมากกว่านี้ได้มั้ย?

(หยุดคิด) ก็ไม่รู้อะค่ะ เรื่องแบบนี้ต้องดูเรื่อย ๆ นาน ๆ หนูคิดว่ายังอีกไกลเลย แล้วอีกอย่างคือเต้ยชอบอยู่คนเดียวด้วย มันสบายดี จะทำอะไรก็ได้

เขามีท่าทีจีบมั้ย?

เขาเป็นคนไม่จีบนะ หนูรู้สไตล์เขาถึงเขาจะไปคุยกับคนอื่น เขาก็จะไม่จีบตรง ๆ จะเป็นแนวเริ่มจากเพื่อน เขาก็จะไม่จีบหนู

เขารู้มั้ยว่าเต้ยแฮปปี้ที่จะอยู่คนเดียว?

เขารู้จักหนู เขาก็จะรู้อยู่แล้วว่าหนูชอบอยู่คนเดียว ถ้ามีเรื่องความรักอีกชีวิตเต้ยจะเยอะไปหมดเลย ไหนจะงาน, เรียน และครอบครัวอีก ถ้าจะคุยกันก็เป็นพี่เป็นเพื่อนที่หวังดีต่อกันดีกว่า

เขาเป็นเพื่อนผู้ชายที่สนิทที่สุดของเต้ยตอนนี้มั้ย?

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ก็คุยและดูไปเรื่อย ๆ ดีกว่า เต้ยค่อนข้างโลกส่วนตัวสูง แต่ถ้าเต้ยจะคุยกับใครก็คุยคนเดียว แต่ก็ยังไม่เจอ

ไม่กลัวคำว่า "โสด" เหรอ?

ไม่กลัวความโสดเลย ของแบบนี้ถ้าจะมีก็มีเอง หนูก็อยู่กับเพื่อนได้ แต่เมื่อก่อนตอนมีแฟนก็จะตัวติดกัน ก็ไปกับกลุ่มเพื่อนด้วย แต่ที่ตอนนี้อาจจะเป็นเพราะเราทำงานและเรียนด้วยมั้ง เราเลยต้องการเวลาพักผ่อนและสบายตัวมากกว่า ถามว่ามีหนุ่มอื่นเข้ามาจีบบ้างมั้ย ไม่มีเลยค่ะ

หนุ่มที่จะพิชิตใจเต้ยได้ต้องเป็นคนยังไง?

ตอนนี้เรื่องนี้เต้ยไม่มีในหัวเลย หรือว่าหนูต้องอยู่คนเดียวไปแบบนี้นะ (หัวเราะ) ถ้าเต้ยจะคุยกับใครสักคน เขาคงต้องเป็นทั้งเพื่อนและคนที่เราไว้ใจได้ เขาต้องมีมุมมองความคิดที่ดี สมมุติว่าหนูเจอปัญหาปัญหา หนึ่ง เขาต้องสามารถที่จะดึงหนูออกมาจากปัญหาได้ ไม่จำเป็นต้องช่วยแก้ปัญหา แต่เขาต้องมีคำพูดอะไรสักอย่างที่ลิงก์กับเราได้