บทสัมภาษณ์ดารา สัมภาษณ์ดารา สัมภาษณ์ดาราไทย หัวข้อสัมภาษณ์ดารา ดาราไทย ดาราเทศ ดาราเอเชีย หน้า 1

สัมภาษณ์ดารา นาเดีย นิมิตรวานิช

"เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ "

จากผู้ชายมาดเซอร์ ผมฟู หยิกหยองยาวสยาย กลายเป็นหนุ่มผมสั้น มาดลุยๆ เป้ เสลอ หรือเป้ อารักษ์
อมรศุภศิริ วันนี้ และในอดีตถึงมาดจะเปลี่ยนไป เพราะต้องรับบทลุยในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของไฟว์สตาร์
“เฉือน” แต่หัวใจไม่เปลี่ยนแปลง

บทสัมภาษณ์จาก TV-Inside

ถาม	บทบาทในภาพยนตร์เรื่อง “เฉือน” ?
เป้ :	“เป็นหนังฆาตกรรมครับ ผมเล่นเป็นลูกน้องพี่นก ฉัตรชัย ซึงรับบทเป็น หมวดชิน ผมอยู่ในคุก แล้วก็คดีฆาตกรรมก็ยังมี แต่ก็ยังสืบไม่ได้ซักที ว่าใครฆ่า แต่เรามีเซ้นท์เรื่องความรู้สึกของฆาตกรคนนี้ พี่นกเลยต้อง ปล่อยเราออกจากคุก เพื่อมาสืบตามคดีในระยะเวลา 15 วัน”
ถาม	เล่นหนังมากี่เรื่องแล้ว ?
เป้ :	“เรื่องนี้เรื่องที่ 4 แล้วครับ”
ถาม	จะเลิกเล่นดนตรีมาเล่นหนังเลยมั้ย ?
เป้ :	“ไม่ครับ ก็ยังเล่นดนตรีอยู่”
ถาม	เวลาเราออกกองต่างจังหวัด แล้วมีปัญหากับเพื่อนๆที่วงด้วยมั้ย ?
เป้ :	“ไม่ครับ คือดนตรีจะเป็นงานจ้าง ก็จะล็อกไว้แล้วว่าวันไหน แต่แรกๆ ที่ออกอัลบั้มก็มีปัญหาบ้าง”

ถาม	รับบทในหนังแนวลึกลับ ดราม่า ถนัดมั้ยหรือถนัดหนังรักมากกว่า
เป้ :	“มันต่างที่คาแร็คเตอร์ครับ ผมไม่เคยรับบทเป็นผู้ชายติดคุก ส่วนมาก จะโรแมนติก แต่ผมก็พยายามให้ดูแกร่งขึ้น ผมอยากลองเล่นหลายๆบท”
ถาม	วิธีที่ทำให้ตัวเองดูแกร่งคือ ?
เป้ :	“ก็ตัดผม มีรอยสัก พยายามเข้าฟิตเนส เพราะผมไม่เคยเข้าฟิตเนสเลย สุดท้ายก็ไม่ได้เข้าครับ มาเล่นที่บ้านเพราะไม่มีเวลาไป ก็ได้เท่าที่เรามีเวลา”
ถาม	ชอบหนังแนวไหน ?
เป้ :	“คือผมอยากจะเลือกได้ที่แบบจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มันไม่เกี่ยวกับแนวหนัง แต่มันเกี่ยวกับคาแร็คเตอร์ และเรื่องโดยรวม หนังแนวไหนก็ได้ที่ทำให้ ผมเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ อยากลองหลายแบบ เรื่องก็เป็น อีกเรื่องที่เปลี่ยนมาก แรกๆก็ยากกว่าจะเข้าใจ”
ถาม	ตอนนี้สิ่งที่อยากทำมากกว่างานแสดง ?
เป้ :	“(หัวเราะ) คือผมไม่ได้อยากร้องเพลงนะครับ แต่ผมอาจจะแต่งเพลง และเล่าเรื่องของผม

ถาม	” มีโปรแกรมมั้ย ที่จะแต่งเพลงเอง ร้องเอง ?
เป้ :	“มีโปรแกรมครับ แต่ว่าร้องไม่ได้”
ถาม	แนวไหน ?
ี้เป้ :	“เป็นแนวโฟล์คครับ”
ถาม	ส่วนงานพิธีกร เห็นว่ามีคนเสนอมาแต่ไม่รับ ทำไมล่ะ ?
เป้ :	“ไม่ครับ ผมพูดไม่ชัดครับ”
ถาม	เจาะจงมั้ยว่าต้องเล่นหนังกับค่ายใด ค่ายหนึ่งเท่านั้น ?
เป้ :	“ตอนแรกผมเล่นกับจีทีเอช 3 เรื่องครับ ผมเป็นฟรีแลนซ์ครับ อยู่ที่โอกาส ที่เค้าจะให้คือสมมติว่า บทมันดีผมก็รับเล่นได้หมด”
ถาม	ในเรื่อง “เฉือน” ร่วมงานกับพี่นก ฉัตรชัย รู้สึกยังไงบ้าง ?
เป้ :	“ก็ดีครับ (ยิ้ม)”

ถาม	พี่นก แนะนำอะไรเราบ้าง ?
เป้	: “ก็ไม่ได้สอนอะไรครับ คือหมายความว่าเค้าเป็นมืออาชีพ เค้าทำให้เราดู เราก็จำมา”
ถาม	เท่าที่มอง ความเป็นนักแสดงมืออาชีพของพี่นก มีอะไรบ้าง ?
เป้ :	“ดูเหมือนมันง่ายครับ พี่นก สามารถเล่นบทยากๆให้ดูเหมือนง่ายได้ครับ แต่มันไม่ใช่ง่ายๆ นะ”
ถาม	เป้เคยเรียนแอ็คติ้งมั้ย ?
เป้ :	“เคยเรียนครับ ตั้งแต่ตอนหนังเรื่อง บอดี้ศพ19 ครับ เรียนกับครูรัชพล ที่ตอนนี้ไปเปิดโรงเรียนสอนการแสดงที่เอสพละนาดครับ พี่เค้าเก่งจริง ครับ แล้วก็ปะสบการณ์เยอะมาก พี่เค้าไปเรียนแอคติ้งที่นิวยอร์คมา เค้าไปเทคคอร์สมาเยอะมากครับ”
ถาม	ตอนเรียนการแสดงเคยท้อมั้ย ?
เป้ :	“มันสนุกมากเลยนะครับ พอเรียนแล้วมันเหมือนเปิดวิสัยทัศน์ ในการ แสดงครับ พอเราไปเรียนการแสดงมาจะรู้ว่าสาเหตุที่เรา แสดงออกมา มันเป็นยังไง มันสนุกมาก เวลาที่เรารับบทเป็นคนอื่นมันเหมือนกับได้ ทำอะไรใหม่ๆ เพราะอย่างถ้าผมไม่ได้เล่น บอดี้ศพ19 คงไม่มี โอกาสได้ เจอผีหรอกในชีวิตผม ไม่มีโอกาสได้ถือปืนยิงใคร”
ถาม	ทำไมถึงยอมรับบทเรื่อง เฉือน ?
เป้ :	“ที่เล่นเรื่องเฉือนนี่คือ อันดับแรกเลยคือ พี่โขม ดูจากหนังเรื่องไชยา มันส์มาก แต่พออ่านบทแล้วก็งงเหมือนกันว่าทำไมพี่โขมเลือกผม เพราะ คาแร็คเตอร์มันคนละทางกันเลยครับ เค้าบอกว่าอยากจะลองเปลี่ยน พี่นก ให้เป็นอีกแบบนึง เป้ให้เป็นอีกแบบนึง”

ถาม	ใช้เวลาถ่ายทำนานเท่าไหร่ ?
เป้ :	“ประมาณ 2-3 เดือน ครับ”
ถาม	เวลารับงานจะรับทีละกี่เรื่อง เห็นบอกมีหนังเรื่องใหม่แล้วด้วย ?
เป้ :	“ทีละเรื่องครับ เรื่องเฉือนถ่ายทำเสร็จผมค่อยต่อเรื่องใหม่ เพราะเคยรับ 2 เรื่อง ไม่ไหวครับ (หัวเราะ) แยกประสาทถูก แต่เหนื่อยมากครับ เรื่อง ที่ต่อจากเฉือน ผู้กำกับคือพี่โป๋ยครับ คนเดียวกับที่ทำเรื่อง สบายดีหลวง พระบาง เป็นคนทำครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก ที่ได้แต่งงานที่ลาว”
ถาม	ทำงานในวงการมา อิ่มตัวหรือยัง โฆษณาก็เยอะ ?
เป้ :	“โฆษณาค่าตัวผมไม่ได้แพงนะครับ ละครค่าตัวผมถูกกว่าในบรรดา พระเอก เค้าตกใจเลยอ่ะ”
ถาม	คิดยังไงที่บางคนบอกว่าดังแล้วโก่งค่าตัว ?
เป้ :	“ถ้าเกิดเป็นผมบทโอเค เท่าไหร่ ผมก็เล่นเพราะชอบ แต่ว่าถ้าเป็นพรี เซ็นเตอร์ก็อีกแบบนึง แต่ว่าผมไม่คิดแพงอยู่แล้ว (แสดงว่ายังไม่เบื่อ วงการบันเทิงแน่ๆ)”
ถาม	ถ่ายทำหนังกับละครมา บรรยากาศ ชอบแบบไหนมากกว่ากัน ?
เป้ :	“กองละครก็สนุก แต่ถ่ายเยอะมาก คือเราไม่มีอินเนอร์ คืออินกับตัว ละครจากข้างใน ที่จะสามารถต่ออารมณ์ได้เลย ต้องเรียนรู้ ต้องฝึกฝน อีกเยอะ เล่นหนังเราต้องศึกษาบทเยอะแยะ ทำอารมณ์”
ถาม	มีช่องอื่นทาบทามบ้างมั้ย ?
เป้ :	“ช่อง 3 ก็ทาบทามบ้าง ล้อเล่นครับ (หัวเราะ) ไม่ได้มาครับ เค้ารู้อยู่ แล้ว ครับ คือมันไม่เกี่ยวกับช่องครับ มันเกี่ยวกับค่ายครับ ตอนนี้ผมก็เล่นกับ ค่ายโพลีพลัส”
ถาม	หมายถึงผูกขาดกับโพลีพลัสค่ายเดียว ?
เป้ :	“ผมยอมครับ ผมชอบค่ายนี้ มันก็มีข่าวลือมากมายกับการทำงานละคร อย่างนี่ก็ทำสต๊อกก็ดีครับ พี่ปลา ผู้กำกับจะได้มีเวลานั่งตัดด้วยครับ คือ กับโพลีพลัสเป็นสัญญาใจอ่ะครับ (ยิ้ม)”
ถาม	เปลี่ยนมาเรื่อง ชิลล์ๆ บ้าง วันว่างของเป้เป็นยังไง ?
เป้ :	“ตอนนี้ก็คงนั่งเล่นกีต้าร์ พยายามอัดเพลง ฝึกร้อง ดูหนัง ฟังเพลง ถ้ามี เวลาว่างนานๆจะไปภูเก็ต เมื่อก่อนผมชอบไปเชียงใหม่ครับ เพราะว่าสวย สบาย ชิลล์ด้วยครับ”

ถาม	ปกติเป็นนักดื่มมั้ย ?
เป้ :	“ไม่ดื่มครับ (ยิ้ม) หน้าผมเมามากใช่มั้ยครับ คือผมนี่เบียร์ขวดเดียวก็ไป แล้วครับ”
ถาม	แล้วกีฬาที่เล่นล่ะ ?
เป้ :	“ก็เล่นบ้างครับ ชกมวยก็นานๆ ที ผมเล่นตั้งแต่ ป.2 แล้วครับ”
ถาม	คิดยังไงไปชกมวย ?
เป้ :	“ตอนเด็กๆ โดนคนตัวใหญ่แกล้งครับ นั่นคือแรงบันดาลใจ (หัวเราะ)” หันกลับมาเรื่องข่าวของเป้บ้าง ทั้งข่าวความรัก เรื่องส่วนตัว
ถาม	เวลามีข่าวที่บ้านว่ายังไงบ้าง ?
เป้ :	“พ่อแม่ไม่สนใจข่าวครับ เพราะมันไม่ผิดกฏหมาย ข่าวที่เกิดขึ้นมา มันผิด กฏหมายมั้ย ตำรวจมาจับมั้ย คือคนชอบติดข่าวฉาวๆ เพราะว่ามันทำให้ ดาราดูเหมือนคนธรรมดามากขึ้น แต่เรโดนสร้างให้ไม่ธรรมดา แล้วก็ ทำลายเค้าให้ดูแบบไอ้นี่ก็ฉาวไอ้นี่ก็เลว”
ถาม	ข่าวไหนที่แรงที่สุดสำหรับเป้ ?
เป้ :	“ผมค่อนข้างชิลล์นะครับ ตอนนี้ผมก็เริ่มเจอข่าวที่มันไม่จบซะทีคือเรื่องเลิก กับก้อย เรื่องมือที่สาม ซึ่งมันไม่จริงเลยครับ ต้องมีคนไปบงการข่าวที่ไม่ หวังดีกับก้อย หนุ่ม หรือว่าผม ที่พยายามทำลายชื่อเสียง เพราะฉะนั้นอย่าไป เชื่อ คือคนโรคจิตเค้าคงไม่หยุด ก็ได้แต่บอกว่าอย่าไปเชื่อครับ แล้วเรื่องที่ เม้าท์ว่าผมเลิกกันแล้ว และแพ็คคู่ออกงานอีเว้นท์ นี่ผมไม่ได้ออกงาน อีเว้นท์นานมากครับ ยกเว้นที่จะไปญี่ปุ่นด้วยกัน คือผมไม่ได้เลิกกันไง ก็ ต่างคนต่างทำงาน”
ถาม	กับก้อยเจอกันครั้งแรกแล้วรู้สึกยังไง ?
เป้ :	“เจอกันครั้งแรกก็ปิ๊งเลย (หัวเราะ) มันนานมากแล้วไงครับ 2 ปีกว่า ก็โอเคครับ”
ถาม	รู้สึกแย่มั้ยที่ความเป็นส่วนตัวเราหายไป ?
เป้ :	“ชิลล์ๆ มันแลกกันครับ กับการทำงานแบบที่คนอื่นเค้าฝันอยากจะทำ”
ถาม	ก้อย เป้ เริ่มเก็บเงินเพื่อสร้างอนาคตหรือยัง ?
เป้ :	“ผมว่ายังอายุน้อยไปนิดนึง คือแล้วทุกอย่างก็ไม่แน่นอนไงครับ ไม่ใช่วันนี้ ยังรักกันอยู่ แล้วพรุ่งนี้อาจเลิกก็ได้”

ถาม	ใช้อะไรเป็นบรรทัดฐานในการคบกัน ?
เป้ :	“ความรัก ความเข้าใจ”
ถาม	เป้ขี้หึงก้อยมั้ย ?
เป้ :	“ตอนนี้เลิกหึงแล้วครับ ตอนนี้ก้อยอยากทำอะไรก็ไม่เป็นไร เรื่องที่เค้ามา เคลียร์ผมก็เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร จบแล้วไม่มีอะไรคาใจครับ”
ถาม	เพื่อนๆ ในวงเข้าใจมั้ยที่เราทำงานเยอะกว่า ?
เป้ :	“เพื่อนๆ สบายดีครับ คือวงผมเกิดมาเพื่อทำดนตรี ถ้าผมยังทำดนตรีอยู่ก็ โอเค”
ถาม	คิดจะเปลี่ยนแนวเพลงบ้างมั้ย ?
เป้ :	“ไม่เปลี่ยนครับ ผมพยายามทำแนวนี้ให้คนฟังได้ ซึ่งเป็นแนวร็อคแอนด์ โรลครับ ไม่มีหวาน พยายามทำแนวนี้ให้คนฟังได้มากกว่า”
ถาม	จะกลับไปไว้ผมยาวอีกมั้ย ?
เป้ :	“มันไม่มีโอกาสครับ จะกลับไปไว้ผมยาว ผมก็เล่นหนัง มันก็ต้องต่อๆ ไป เรื่อยๆครับ เพราะเรื่องมันคอนตินิวต่อ ถ้าเกิดผมไว้ผม ยาวมันก็จะจำกัด หน้าที่การงานผม”
ถาม	ละครเรื่องต่อไปกับโพลีพลัสมีมั้ย ?
เป้ :	“คิดว่ามีครับ ประมาณปลายปี”
ถาม	อยากทำงานเบื้องหลังมั้ย ?
เป้ :	“ไม่อยากครับ ผมไม่มีความรู้ ก็อยากจะทำรายการบ้างนะ แต่คงเป็นราย การเด็กแนวที่ไม่มีคนดู (หัวเราะ) ในส่วนของละครผมชอบคุณภาพ ของ โพลีพลัส ผมมองว่าการแสดงของหนังจะยิ่งใหญ่กว่าละคร และหนังจะ เรียลกว่า”
ถาม	มีอะไรที่เราอยากปรับปรุงบ้าง ?
เป้	“ก็ท่าทางการเดินครับ เพราะมีคนทักมาเยอะครับ อย่างสมัยก่อนผมไปงาน วันเกิดได้สบาย แต่เดี๋ยวนี้ผมไปไม่ได้เลยคนเยอะมาก แต่ตอนนี้ก็ไม่ค่อย ได้เที่ยวไหนแล้ว เหนื่อย”