ถาม

แพนเค้ก

กระแสตอบรับของละครรีเมกเป็นเรื่องธรรมดา ที่ต้องมีทั้งบวกและลบ เป็นธรรมดาของทุกเรื่อง เพราะแพนเล่นละครรีเมกเกือบ 5 เรื่อง จะได้รับฟีคแบ็กที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับละครเรื่องทวิภพ คงเป็นเรื่องที่อยู่ในใจคนดูค่อนข้างเยอะทำให้มีกระแสวิจารณ์แตกต่างกันออก ไป ซึ่งเวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่น 2011 จะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยมากขึ้น เพิ่มความกุ๊กกิ๊กของเรื่องเยอะขึ้น ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่เวลาที่คนอ่านหนังสือนิยายจะมีจินตนาการแตกต่างกันออกไป แต่การเอามาทำละครเป็นเรื่องค่อนข้างยาก เพราะเนื้อเรื่องจะสอดแทรกเรื่องราวในสมัยก่อน ดูแล้วจะได้แง่คิดค่อนข้างเยอะ ต้องพยายามดูแล้วทำใจกว้างๆ เปิดรับอะไรใหม่ๆ เพราะแพนได้มีโอกาสคุยกับคนเขียนบทละคร จะเล่าให้ฟังถึงวิธีการนำเสนอในรูปแบบของบทละครอาจจะต้องมีการเพิ่มเติมอะไร มากขึ้นและเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับยุคสมัย

แม่มณี 2011 มีการวิจารณ์ถึงความก๋ากั่นค่อนข้างเยอะ รู้สึกกดดันบ้างไหม

ไม่นะ เพราะแม่มณีในเวอร์ชั่นนี้กับเมื่อ 10 ปี ที่แล้วต้องมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว ผู้หญิงสมัยนี้ ต้องมีคาแรกเตอร์ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย และเราทำละครจากยุคที่เป็นปัจจุบันย้อนกลับไปสู่เวลาในอดีต คนดูละครเองก็คงต้องเป็นคนรุ่นใหม่ รวมถึงคาแรกเตอร์ของแม่มณีอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้พูดหรือคิดอย่างคน ปัจจุบัน จะให้เหมือนเมื่อ 10 ปีที่แล้วคงไม่ใช่ และไม่สามารถบอกได้ว่าเวอร์ชั่นไหนดีหรือไม่ดี เพราะเวอร์ชั่นนี้มีความชัดเจนอยู่แล้ว เพียงแต่เรามีแนวทางที่จะทำให้ชัดเจนในแบบของเรา มีบ้างที่คนบอกว่าทำไมแม่มณีถึงหมกมุ่นอยู่กับคุณหลวง ("อ๋อม" อรรคพันธ์ นะมาตร์) คือถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง คือ คุณหลวงเป็นผู้ชายที่สุขุมนุ่มลึก ซึ่งผู้ชายในสมัยนี้จะไม่เป็นอย่างนี้ แล้วแม่มณีเป็นคนที่หัวสมัยใหม่มาก ไปเรียนเมืองนอกมา พอมาเจอผู้ชายแบบนี้คงอยากจะแกล้งหรือเข้าไปพูดคุยมากขึ้น

อยากบอกผู้ชมยังไง

ความจริงแล้วสิ่งที่เราไม่เหมือนกัน ไม่ได้แปลว่าเราไม่ดี หรือเราทำได้ไม่เหมือนต้นฉบับ เพราะทุกคนตั้งใจทำละครให้ดีที่สุดอยู่แล้ว และเดี๋ยวนี้คนดูค่อนข้างที่จะให้โอกาสกับนักแสดงรุ่นใหม่ และละครรีเมกมากขึ้น ซึ่งเราได้รับข้อคิดที่ดี ในส่วนของคำติชมต่างๆ นำมาปรับปรุงต่อไปในอนาคต ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วย เพราะทุกคนตั้งใจทำเพื่อให้เป็นทวิภพเวอร์ชั่น 2011 มากที่สุด

มุมมองของนางเอก

แพนว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปตามเวลา อย่างวิธีการทำงานและค่านิยมต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าพูดถึงภาพรวมทั่วไป การนำเสนอเรื่องราวต่างๆ ก็มีความดุเด็ดเผ็ดมันมากขึ้น รวมทั้งในเรื่องของสิ่งที่คนอยากจะบริโภคอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง และเราต้องเปลี่ยนให้ทันสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

ไม่ได้คาดหวังหรือตั้งไว้ว่าจะทำงานอีกนานแค่ไหน คิดว่าถ้ามีโอกาสก็ยังอยากที่จะทำต่อไป เพราะแพนรู้สึกว่าเรามีโอกาสได้ทำงานเพื่อสังคม ในระหว่างที่เราอยู่ตรงจุดนี้ด้วย แพนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ มากมาย เพราะมาถึงขนาดนี้รู้สึกเกินฝันของเรามากแล้ว ได้ทำงานช่วยเหลือพ่อแม่ของเราในบางส่วน

ทุกอย่างและทุกเรื่อง ทั้งในเรื่องของการทำงานและเรื่องส่วนตัว เป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่ มีการให้คำแนะนำถึงประสบการณ์ในสิ่งที่คุณแม่เคยเจอมา หรือเตือนในสิ่งที่เรากำลังจะเจอ และก็มีหลายเรื่องที่เราเจอตามที่คุณแม่บอกจริงๆ ด้วยความที่เขามีประสบการณ์มาก่อน มีการสอนให้รู้จักเผื่อแผ่คนอื่นๆ ทำอะไรตอบแทนเพื่อสังคมกลับไปบ้าง ล่าสุดแพนกำลังมีโครงการมอบทุนการศึกษาให้น้องๆ ทั่วประเทศ ได้เจอและเห็นมุมมองต่างๆ ในการลงไปดูน้องๆ ด้วยตัวเอง

เปิดหัวใจปิ๊งรักหนุ่มาดเซอร์

ความรักกับ "เป้" อารักษ์ อมรศุภศิริ

เรียกว่ากำลังเดินทางละกัน พี่เป้เป็นคนน่ารัก เรามีโอกาสได้ทำงานร่วมกันหลายๆ อย่าง เขาเป็นคนตั้งใจทำงาน มีความมุ่งมั่นในการทำงานหลายอย่างของเขา ถามว่าสวีทมากไหม ไม่เลยปกติเรื่อยๆ มากกว่า และตอนนี้เราไม่อยากผูกมัดกันไว้ ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเพราะเราต้องทำงานและอยู่กับครอบครัว ยังอยากมีกิจกรรมของตัวเองในหลายๆ อย่าง จุดหมายปลายทางเป็นอย่างไรคงเป็นเรื่องของอนาคต

เรียกว่าผ่านด่านครอบครัวดีกว่า เพราะแพนเป็นคนที่ค่อนข้างสนิทกับครอบครัวมาก ถามว่าครอบครัวว่าอย่างไร เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรมาก ดูอยู่ห่างๆ มากกว่า คุณแม่ก็บอกว่าให้ลองศึกษากันดู จะได้รู้ว่าเป็นยังไง เพราะถ้าวันนี้เรายังโอเคก็ลองคบไปเรื่อยๆ ทำให้ดีที่สุดไปก่อน ส่วนตัวพี่เป้จะสนิทกับครอบครัวแพนประมาณหนึ่ง เพราะเราต่างคนต่างทำงานมากกว่า

ถ่านไฟเก่า

ร่วมงานกับ "เวียร์" ศุกลวัฒน์ คณารศ ในละคร "นางฟ้ามาเฟีย" อึดอัดไหม

ไม่ได้อึดอัด เราตั้งใจทำงานในส่วนของเรากันมากกว่า พี่เวียร์เขาก็ตั้งใจทำงานในส่วนของเขา สบายๆ เหมือนเดิม เป็นพี่น้องกัน เพราะเราเป็นอย่างนี้กันมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว ทุกวันนี้ยังร่วมงานได้ปกติ ถามว่ามีการโทรศัพท์ติดต่อกันบ้างไหม ไม่มีเลย นอกเหนือจากงานก็ไม่มีติดต่อกันเลย ส่วนเรื่องที่คนมองว่าพี่เป้จะว่ายังไง ความจริงพี่เป้ไม่ได้ว่าอะไรทั้งสิ้น ไม่มีการหึงหวงหรือว่าอะไรเลย มีแค่ถามไถ่กันปกติเท่านั้นเอง

ให้รอลุ้นกับงานละครดีกว่า (หัวเราะ) เพราะชีวิตจริงต่างคนต่างมีวิถีชีวิตเป็นของตัวเอง แค่วันหนึ่งเรามีโอกาสได้มาเจอกัน และในวันหนึ่งเราก็แยกย้ายกันไปทำเรื่องต่างๆ ตามเส้นทางของตัวเอง แพนพูดแบบนี้เสมอ เพราะเราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเรายังมีความสุขกับวันนี้ แพนจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะสุดท้ายคนที่จะมีวามสุขกับเราจริงๆ คงเป็นแค่ตัวเราเองและครอบครัวของเรา