อีฟ ปานเจริญ

‘ปาล์มมี่’ 12 ปีในวงการเพลง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง แต่ไม่น่ากลัว

จะมีสักกี่คนที่จะถ่ายทอด อารมณ์ ความรู้สึก ผ่านบทเพลงออกมาได้ดี โดยไม่ละทิ้งตัวตนของตัวเองได้เหมือนนักร้องสาว “ปาล์มมี่-อีฟ ปานเจริญ” เธออยู่ในวงการเพลงบ้านเรามา 12 ปีแล้ว ภายใต้สังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จนวันนี้ก้าวออกมาทำงานเพลงที่รักด้วยตัวเอง จนทำให้เจ้าตัวก็รู้สึกได้ว่าชีวิตมีครบทุกรสชาติจริง ๆ งานนี้ “ดาวต่างมุม” เลยขอนัดคุยกับปาล์มมี่แบบเปิดใจทุกเรื่องที่แฟนเพลงตัวจริงต้องรู้

ที่มา: เดลินิวส์

คำถาม	อยู่วงการมา 12 ปีมีความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในชีวิต?
ปาล์มมี่	“เปลี่ยนไปหลายเรื่องนะ เริ่มจากวันแรกที่ทำอะไรไปความตั้งใจมันอยู่ที่เดิม แต่การรับมือ หรือการต้องพัฒนางานไปข้างหน้าเราต้องสรรหาอะไรใหม่ ๆ หาแรงบันดาลใจมาแต่งเพลงใหม่ ประสบการณ์ชีวิตก็สอนเรา พอข้างในสะสมเรื่องพวกนี้ มันทำให้งานเพลงที่เราทำออกมาเป็นไปตามสิ่งที่เจอ มันลงตัวขึ้นเยอะ คลี่คลายในบางเรื่อง สไตล์เพลงก็ชัดเจนขึ้น เรารู้เราชอบอะไร แต่บางทีความชอบกับงานที่เราต้องทำออกไปมันก็ใช้ไม่ได้ทั้งหมด ต้องเลือกบางอย่าง ตะกอนตรงนั้นจะค่อย ๆ ชัดขึ้น ถึงยังไม่เคลียร์ใส เพราะต้องใช้เวลาจนกว่าจะหมดชีวิตลงถึงจะได้รู้ทั้งหมด”
คำถาม	รู้สึกสับสันว่าเราจะไปต่อกับแกรมมี่หรือออกมาค้นหาและทำเพลงในแบบของตัวเอง?
ปาล์มมี่	“เราโตขึ้นเรื่อย ๆ ความต้องการเราชัดขึ้น เหมือนเจอทางแล้วคิดว่ามันตันก็ต้องถอยกลับมาให้เข้าใจโลกมากขึ้น เข้าใจการอยู่ร่วมกัน เราได้อะไรเราต้องแลกด้วยอะไร เพราะไม่ว่าเงินเท่าไหร่ก็แทนความสุขไม่ได้ คนเลยมองว่าการทำงานในแบบเราจะยาก ก็เพราะเราเข้ากันไม่ได้ไงคะ มี่เลยเดินออกมาแล้วไปตามหาคนที่มี่คิดว่าอยู่ในเคมีที่ใกล้เรา เมื่อก่อนเป็นเรื่องของค่าย มีพนักงานมาแต่งเพลงให้ มีเงื่อนไขมากมาย แต่เราทำเองมันไม่มีกฎเกณฑ์ ก็ทำเพลงด้วยความสบายใจใช้ความคิดเต็มที่ของที่ปรุงออกมาก็ถูกใจทั้งมี่และคนฟังค่ะ”

คำถาม	ตอนนี้มองตัวเองในวงการเพลงยังไงในยุคที่หลายคนบอกว่าทำงานยาก?
ปาล์มมี่	“ยากมากค่ะ ยุคนี้คนฟังเปลี่ยนเร็ว แต่มี่ไม่กลัว เพราะมันสมองของเรายังอยู่กับเราจนกว่าจะไม่มีไฟ ไม่เคยบอกว่า 40 ยังยืนร้องเพลงหรือทำไปจนแก่ แต่จะบอกตัวเองตลอดว่านี่คืออัลบั้มสุดท้าย เราจะได้ใส่ทุกอย่างแบบไม่กั๊กในการทำเพลงของเราเผื่อพรุ่งนี้ตื่นมาไม่อยากทำแล้ว เพราะเราเป็นคนแบบนั้นไง(หัวเราะ) ถึงคนจะไปดาวน์โหลดแบบไหนก็ตาม ถ้าเพลงดีก็ยังอยู่กับเราตลอดไป ถ้าแก่แล้วมาเห็นว่างานไม่โอเคเราคงแย่ เพราะเราเคยเจอแบบนั้นมาแล้ว ทุกวันนี้ยังลืมไม่ลง เพราะเราตัดสินใจไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเรามีเจ้านาย แต่ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องทำงานส่งใครทำส่งตัวเอง ตอนนี้เราก็ถือว่าทำงานเป็นอิสระแล้วค่ะ”
คำถาม	เคยท้อถึงขนาดไม่อยากเริ่มต้นทำงานใหม่แบบไร้สังกัดเลยมั้ย?
ปาล์มมี่	“เคยบ่อยมาก ใน 3-4 ปีที่หายไป เราพยายามเริ่มทำอัลบั้มใหม่แต่เราท้อมาก มองว่าการเริ่มต้นใหม่น่ากลัว เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในป่าคนเดียวที่ไม่รู้ว่าต้องเจออะไร มี่ถึงอยากให้กำลังใจคนอื่นว่าการเริ่มต้นใหม่ไม่น่ากลัว ถ้าค่อย ๆ เดินไปจนคุ้นทาง เราก็สามารถวิ่งในป่านั้นได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดพอเราเลือกแล้ว เราต้องรู้ว่าจุดมุ่งหมายที่เราเดินออกไปเลือกคืออะไร ไม่กลับไปตรงนั้นเพราะอะไร เจออะไรระหว่างทางถือเป็นบทเรียน ทุกอย่างคือประสบการณ์ สิ่งที่น่าภาคภูมิใจที่สุดคือการที่เราทำมันได้ค่ะ”

คำถาม	ดูเปลี่ยนเยอะ เปิดใจมากขึ้น ไม่ปิดตัวเอง?
ปาล์มมี่	“ใช่ เมื่อก่อนเราไม่พูดเรื่องพวกนี้ เพราะไม่รู้พูดไปจะทำร้ายความรู้สึกใครหรือเปล่า แต่พอมาวันนี้ก็รู้สึกว่าเรื่องจริงก็คือเรื่องจริง ใครมีความสุขในการทำอะไรก็จบแล้ว เส้นทางเราก็ยังคงแสวงหาความสุขค่ะ สำคัญมากคือความสัมพันธ์ที่มันกำเนิดขึ้นระหว่างทางที่ทำงานด้วยแล้วรู้สึกใช่ ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ถึงมีปัญหาก็เลือกแก้บนความเข้าใจกัน”
คำถาม	หลักการทำงานในแบบของปาล์มมี่เป็นยังไงบ้าง?
ปาล์มมี่	“ตั้งใจตั้งแต่วันแรกไม่ว่าเวลาผ่านไปเมื่อไหร่ ยังไม่ชราไปตามหน้าตานะคะ (หัวเราะ) แต่เรื่องที่สำคัญมากคือการใส่ใจเรื่องที่เราทำ พอเราแคร์ปุ๊บไม่ว่าจะหนักแค่ไหนเราก็ทำได้ แคร์คนฟัง แคร์คนจะซื้ออัลบั้มว่าทำไมปกมันพิเศษ ทำไมกล้าทำแบบนี้ เพราะว่าเราแคร์ ในยุคดิจิทัลที่คนไม่ซื้ออัลบั้มแล้วก็ตาม แต่คนที่ยังซื้อจะได้รู้สึกคุ้มกับการที่เสียสตางค์ไป ถ้าคุณโหลดคุณไม่ได้สิ่งนี้ ไม่รู้รายละเอียดว่าใครแต่ง นักดนตรีเก่ง ๆ ทุกอย่างใส่อยู่ในนั้น หลักการเราคือใส่ใจ ไม่ดูถูกคนฟัง และแคร์สิ่งที่เราเป็น”

คำถาม	อัลบั้มใหม่ล่ะแฟน ๆ คอยถามตลอดเวลา?
ปาล์มมี่	“ปีหน้ามี่คงออกอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่มี่อาจไม่ทำเดี่ยวแล้ว น่าจะตั้งวงขึ้นมาเป็นโปรเจคท์พิเศษ ตื่นเต้นมาก เราไม่เคยมีวง เราอยากเปลี่ยนบรรยากาศ อยากให้คนฟังฟังอะไรใหม่ ๆ ในมุมอื่น แต่เพลงเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ส่วนวงเรากำลังเลือกว่าจะมีสมาชิกอะไรบ้าง นี่คือความสนุก เราเริ่มอิ่มจากการร้องเพลงแล้วยืนอยู่คนเดียวแล้ว อยากหาอะไรสนุก ๆ ที่ไม่ต้องเล่นเพลงเก่าค่ะ มันมีความกดดันเหมือนกัน แต่พอเบรกก็มานั่งคิดเรื่องเสื้อผ้าก็สนุกสนานไป”
คำถาม	แล้วชีวิตสบาย ๆ แบบที่คนไม่รู้ล่ะ?
ปาล์มมี่	“เราธรรมดา ติดดิน ใช้ชีวิตอย่างที่เห็นเวลาโพสต์ใน เฟซบุ๊ก อยู่บ้านชอบดูต้นไม้ ปลูกต้นไม้ ขุดโน่นขุดนี้มาปรับเปลี่ยน จัดตกแต่งห้อง ทำกับข้าวเรียกเพื่อนมาสังสรรค์ที่บ้าน หาซื้อของเก่ามาแต่งบ้าน ทำเพราะเราอยู่ไม่สุขไง เป็นนักสร้างบรรยากาศที่บ้านค่ะ (ยิ้ม)”

คำถาม	พอเวลาท้อกำลังใจเราได้จากไหนบ้าง ครอบครัว เพื่อน ความรัก?
ปาล์มมี่	“ทุกอย่างที่พูดมาประกอบหมดเลยค่ะ ครอบครัว เพื่อน แฟน วงดนตรีที่เราชอบ คำบางคำที่มากระทบเรา ทุกอย่างคือกำลังใจ การเปลี่ยนความคิดแค่นี้ก็จุดไฟให้เราต้องเดินหน้าแล้ว เพื่อนก็ช่วยเวลาท้อ ๆ เพื่อนก็จะมาเล่าให้เราคิดได้ว่าที่ผ่านมาเราทำอะไร มาสะกิดให้เรารู้ตัว บางทีเราแบกความกดดันจนไม่ให้ค่าของตัวเอง”
คำถาม	ความรักของเราตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
ปาล์มมี่	“อยู่กันแบบเพื่อน ไม่พิเศษอะไรมากมาย เล็กน้อยก็แฮปปี้ได้ ไม่ต้องอยู่กับของแพง รถหรู เพราะเราให้ความสำคัญกับความรู้สึกมาก มันคือการ กระทำต่อเนื่องสม่ำเสมอไปเรื่อย ๆ อย่างที่เราเคยทำให้กันและกันมา ความสัมพันธ์ของเรามีมานานพอสมควร เราดูแลกันธรรมดานะอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง อยู่กันแบบเพื่อนในโลกของความจริง ไม่ได้สร้างอะไรขึ้นมาตั้งแต่แรกที่รู้จักกัน เราโตมาด้วยกันตั้งแต่เรียนหนังสือมันเลยเป็นธรรมชาติ”

คำถาม	อนาคต เรื่องแต่งงานล่ะจะมีโอกาสเกิดขึ้นมั้ย?
ปาล์มมี่	“มี่ไม่ได้คิดว่าการแต่งงานคือสามารถการันตีว่าชีวิตเรามีความสุข ในชีวิตคู่คือวันต่อวันที่เราต้องแสดงออกให้เห็นว่าแคร์และเข้าใจกัน การแต่งงานไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับมี่และคนรักของมี่ค่ะ เราดูแลกันในแบบเพื่อนทุกอย่างโอเค กอดคอไปไหนไปกินข้าวสบายมาก แต่เราเคารพกันเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้การคบหาของคนสมัยนี้อาจจะสั้น เพราะเราไม่เคารพซึ่งกันและกัน ถ้ามันเป็นเวลาส่วนตัวของเราก็ต้องเข้าใจกันสำคัญมาก เพราะชีวิตเราไม่สามารถอยู่กันได้ 24 ชม.ได้ค่ะ”
คำถาม	อนาคตในการทำงานเพลงล่ะมองยังไง ได้ยินว่าเร็ว ๆ นี้จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ด้วย?
ปาล์มมี่	“อยากเลือกทำเรื่องที่สนุก เพราะไม่รู้จะอยู่ตรงนี้ได้อีกกี่ปี อย่างคอนเสิร์ต “ปาล์มมี่ แบร์ฟุต อะคูสติก คอนเสิร์ต” ที่จะมีวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ ที่ไบเทค บางนา เป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน ตื่นเต้นมาก วงที่จะมาเล่นเป็นวงจากนิวยอร์กมาทำเพลงของมี่เป็นโฟร์คคันทรี่ ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้น อยากให้ทุกคนมาสนุกพร้อมกันกับประสบการณ์นี้ เพราะเราฝันมานาน จนวันนี้ได้ทำขึ้นมาโชคดีมากที่มี พี่ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์ มาทำให้เกิดขึ้น เหมือนคอนเสิร์ตที่ทำกับครอบครัว เรามีความสุขที่จะระบายออกอยากส่งให้ทุกคนได้รับรู้กันในวันนั้นค่ะฝากแฟน ๆ ไปสนุกกันด้วยค่ะ”

คำถาม

ฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ติดตามเรามาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้?

ปาล์มมี่

“มี่รู้สึกโชคดีทุกครั้งที่ได้ยินว่ามีพวกเขา ไม่มีอะไรดีไปกว่าสิ่งนี้แล้วทำเพลงแล้วมีคนติดตามฟัง ถ้าไม่มีเขาเราก็ไม่มีค่าอะไร ต้องยอมรับเลยว่าทุกคนพาให้มี่มาถึงวันนี้ บางทีหายไปหลายปีก็คิดเสมอว่าเขาจะยังอยู่ด้วยมั้ย เราไม่รู้เขาคิดกันยังไง เพราะคนบ้านเราเปลี่ยนอะไรเร็ว แต่เราพยายามทำธุรกิจดนตรีของเราแบบจริงใจ ไม่เอาเปรียบ ไม่ได้มาตักตวง แต่ทุกคนมอบกำลังใจให้สิ่งดี ๆ กับมี่เยอะแยะ ขอบคุณเบื้องบนด้วยที่ทำให้มี่มีอาชีพอย่างนี้คอยเติมให้เรามีชีวิตต่อไปได้ปีแล้วปีเล่า บางทีหมดไฟก็ได้แฟน ๆ พยุงเราขึ้นมาได้ ก็รู้สึกว่าต้องทำงานต่อไปขอบคุณทุกคนจริง ๆ ค่ะ (ยิ้ม)”

อ่านบทสัมภาษณ์ของปาล์มมี่จบแล้ว มุมมองของเธอทำให้หลายคนที่มีฝันที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองรัก มีพลังที่จะก้าวเดินต่อไปโดยไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง จะนำมาซึ่งความสุขในชีวิตของเราในที่สุด.