Top
สัมภาษณ์ดารา พอร์ช - ศรัณย์ ศิริลักษณ์

 

"พอร์ช" หนุ่มหน้าใส หัวใจกตัญญู

"พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์"หนุ่มหน้าใสคนนี้ เราเชื่อแน่ว่าเขาคือขวัญใจวัยรุ่นของยุคนี้อีกคน
เพราะด้วยวัยเพียง 19 ปี วันนี้สามารถขึ้นสู่ตำแหน่งพระเอก 7 สีได้แล้ว นอกจากนั้นความหล่อใส
ยังเข้าตากรรมการถูกทาบให้เป็น ฟรีเซ็นเตอร์ "กานิเย่" อีกต่างหาก

เอ๊า....อย่าเสียเวลากันเลย วันนี้พอร์ช พร้อมมาเปิดใจ ถึงทุกๆเรื่องที่สาวๆอยากรู้
เอาละ....ไปคุยกับ พอร์ช กันเลยดีกว่า


ที่มา : เดลินิวส์

 
 


 

"พระเอกช่อง 7"

ถาม

ตรงๆนะ พอร์ช เหมือนจะเป็นคนแรกของช่อง 7 เลยนะ แหวกแนวมาตัวขาว คนอื่นๆเขาจะคล้ำๆทั้งนั้นเลยนะ ?

พอร์ช

“ (หัวเราะ) ครับ มีแต่คนบอกว่าเขาชอบเข้มๆ แล้วผมยังโดนเลยครับ คุณแดง ( สุรางค์ เปรมปรีด์ ) ท่านแซวว่าไปตากแดดให้เข้มๆนะ แต่ผมก็ว่าผิวเราแทนๆหรือว่าคล้ำๆหน่อย มันจะขึ้นกล้องมากกว่าขาวๆ”

ถาม

เป็นพระเอกมาหลายเรื่องแล้ว เสียงตอบรับดีไหม ?

พอร์ช

“ ก็เสียงตอบรับกลับมาดีประมาณหนึ่งครับ แต่เร็วๆนี้จะมีละครเรื่อง ลูกผู้ชายไม้ตะพต เป็นละครหลังข่าวครับที่ผมจะได้เป็นพระเอกเดี่ยวๆ ในเรื่องนี้ผมชื่อไม้ เป็นเด็กช่างครับแล้วเรื่องนี้ผมต้องเรียนมวยด้วย แต่เรื่องมวยผมไม่ซีเรียส แต่ผมซีเรียสเรื่องคิวบู้มากกว่า แต่เดี๋ยวทีมงานจะส่งไปเรียนคิวบู้ด้วยครับ จริงๆเลยนะครับผมกลัวว่าภาพจะออกมาไม่สวย ดูแล้วไม่สมจริง”



ถาม

แต่กระแสที่ออกมาดูพอร์ช ไม่ค่อยจะเปี้ยงเท่าไรนะ จริงๆน่าจะดังกว่านี้ ?

พอร์ช

“ ครับตรงนี้ผมก็ยอมรับ ผมว่ามันขึ้นอยู่กับบทด้วย อย่าง มนต์รักแม่น้ำมูล ก็ไม่ได้เป้นตัวหนึ่งเท่าไร ลูกโขน ก็เป็นละครเย็น ก็มาลุ้น ลุกผู้ชายไม้ตะพต ครับเพราะเป็นละครหลังข่าวแล้ว แต่เอาจริงๆนะครับ ผมเองก็ไม่ได้ซีเรียส เพราะผมเองก็เพิ่งเข้าวงการมาไม่เท่าไรเอง เรายังมีเวลาเสริมสร้างประสบการณ์ในการทำงาน”

ถาม

ชีวิตเปลี่ยนไปมากไหม จากวันแรกที่เข้าวงการมาถึงวันนี้ที่ได้เป็นพระเอกช่อง 7 ?

พอร์ช

“ ก็เปลี่ยนนะครับ ผมเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองชอบเล่นละครนะครับ มันอินมากกว่าหนัง เพราะว่ามันเล่นไปเรื่อยๆมีหลายกล้อง แต่หนังมันต้องเล่นซ้ำๆหลายรอบ อันนี้ในเรื่องงานนะครับ ส่วนเรื่องส่วนตัวผมว่าผมเปลี่ยนไปเยอะนะครับ ชัดๆเลยในเรื่องของการมีวินัยในเรื่องการตื่นเช้า ปกติผมจะเป็นคนที่ตื่นสายมาก แต่พอเราไปทำงานเนี้ย เราต้องทำงานกับคนหมู่มาก เราต้องตื่นเช้าตลอด เราต้องฝึกวินัยตัวเอง เพื่อไม่ให้คนอื่นต้องมาเสียเวลาเพราะเรา”

ถาม

ชีวิตวัยรุ่นหายไปไหม ?

พอร์ช

“ หายครับ แต่ปกติผมเองไม่ได้เป้นคนชอบเที่ยวอยู่แล้ว อย่างกลางวันเมื่อก่อนก็จะเจอเพื่อน กินข้าวกับเพื่อน กลางคืนก็อยู่บ้านครับ อ่านหนังสือ เพราะว่าปีหน้าผมก็จะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว แต่ที่ว่าช่วงชีวิตวัยรุ่นหายไปก็เพราะว่า ช่วงกลางวันก็ไม่ได้เจอเพื่อนๆเลย เพราะว่าเราต้องมาทำงาน เจอเพื่อนๆน้อยลงมาก”





  "เกียรตินิยม"
ถาม

เรื่องเรียนตั้งใจว่าจะเข้าเรียนต่อคณะอะไร?

พอร์ช

“ ก็วางไว้นะครับว่าอยากจะเรียนอะไรเกี่ยวกับภาพยนตร์ ละคร ครับ คือเมื่อก่อนนี้ผมก็คิดเยอะนะครับว่าจะเรียนสาขานี้ดีไหม เพราะว่าเราเองก็เจออะไรพวกนี้เป็นประจำอยู่แล้ว แต่พอเราไปทำงาน เราได้มีโอกาสคุยกับผู้กำกับ กับพีๆทีมงาน มันทำให้เราอยากที่จะรู้อะไรมากกว่านี้ ก็เลยคิดว่าสาขานี้แหละใช่ที่สุดแล้ว และอีกอย่างมันน่าจะง่ายด้วย เพราะถ้าเราสงสัยอะไรในการเรียน เราก็สามารถที่จะมาถามๆพี่ๆได้”

ถาม  หวังเกียรตินิยมด้วยไหม ?
พอร์ช

“ นิดหนึ่งครับ เวลาเรียนผมก็เรียนเต็มที่อยู่แล้ว พ่อกับแม่ เขาค่อนข้างซีเรียสเกี่ยวกับเรื่องเรียนนิดหนึ่ง เขาสอนเลยนะ พ่อสอนผมว่า อาชีพเราไม่ค่อนแน่นอน เพราะฉะนั้นตั้งใจเรียนดีกว่า ตั้งใจเรียนก่อน เพื่อรองรับเราไว้ ตกมาจะได้ไม่เจ็บ”

"แอบคิด !!!! "

ถาม

แสดงว่าเคยแอบคิดถึงอนาคตในช่วงขาลง ไว้แล้วละซิ ?

พอร์ช

“ ก็เคยคิดนะครับ แต่พอติดไปคิดมาก็คิดไปทำไม มันยังมาไม่ถึง ผมก็เลยคิดแค่ปัจจุบันมากกว่า มีงานเข้ามาก็ทำงานให้เต็มที่นะ แต่ถ้าถามว่าถ้าเราไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิง ผมอยากจะทำอะไรผมก็อยากจะเปิดร้านอาหาร อันนี้จริงๆนะครับ พ่อผมเปิดร้านอาหารอยู่ที่จันทบุรี ผมก็ชอบไปร้านพ่อ ก็เลยคิดว่าถ้าโตกว่านี้ก็อยากจะเปิดร้านอาหารเหมือนกันครับ”

ถาม

พอร์ช งานเยอะมากนะ ถามจริงๆว่าเคยเหนื่อย เคยท้อ บ้างไหม ?

พอร์ช

“ ก็มีบ้างนะครับ ที่แอบเหนื่อย แต่ถ้าเป็นงานอีเว้น ไปโน้นมานี้ ผมชอบนะ สนุก แต่ถ้าถ่ายละครอาจจะมีท้อบ้างเล่นน้อย ผมก็จะมีอารมณ์แบบถ่ายทุกวัน แล้วก็แบบโอ้ย...เหนื่อยจะตายแล้ว บ่นกับตัวเองนะครับ ( หัวเราะ ) แต่สิ่งเหล่านี้จะหายไป เวลาที่ผมไปนั่งดูมอนิเตอร์ เช็คตัวเองว่าเป็นยังไง โดยเฉพาะฉากสำคัญ อย่างฉากดราม่า เล่นเสร็จปุ๊ปต้องมาดูว่าเป็นยังไง แต่ถ้าเล่นแล้วได้อย่างที่เราต้องการมันจะดีใจมาก อย่างเช่นถ้าผู้กำกับเขาอยากได้น้ำตา แล้วพอหันไปรับกล้อง น้ำตาเราไหลออกมาพอดี มันจะภูมิใจมากครับ ( หัวเราะ ) อันนี้ยากนะ ผมฝึกตั้งนานกว่าจะทำได้ครับ ”





 

" ฟรีเซ็นเตอร์ "

ถาม  ล่าสุดเป็นฟรีเซ็นเตอร์ กานิเย่ ตัวจริงสำอางไหมเนี้ย ?
พอร์ช

“ จริงๆผมเป็นคนดูแลตัวเองมากนะ ที่สำคัญสุดต้องดื่มน้ำเยอะๆ เพราะร่างกายเราต้องการน้ำ 70 เปอร์เซ็น แล้วก็ดื่มน้ำไม่เย็น ผมจะดื่มน้ำเยอะมากจริงๆครับ ส่วนเรื่องผิวพรรณ ผมก็ทาครีมเยอะมากครับ แต่ช่วงนี้แต่งหน้าทุกวัน ก็ไม่ไหวครับก็เปลี่ยนเป็นแบบช่วงเช้าไม่ทา แค่กันแดดอย่างเดียว แต่กลางคืนก่อนนอนทาเยอะมากกกกก ( ลากเสียงยาวมาก หัวเราะ สุดพลังเลยครับ )

ถาม  สำอางขนาดนี้ไม่กลัวว่าเขาว่าเราเป็นตุ๊ด เป็นเกย์ เหรอ?
พอร์ช

“ ไม่กลัวครับ เพราะว่าเราเองต้องใช้หน้าตาทำงาน ก็เลยนิดหนึ่งนะครับ ทีจะต้องสำอางดูแลตัวเอง”

ถาม  แล้วคิดว่าเพราะอะไร กานีเย่ เขาถึงเอกเรามาเป็นฟรีเซ็นเตอร์ ?
พอร์ช

“ อาจจะเป็นเพราะผมดูแลตัวเอง เวลาที่ไปเจอคนโน้นคนนี้ แล้วเรายิ้มแย้ม แล้วผลจากที่เราดูแลตัวเองก็ทำให้เราดูสุขภาพดี แล้วในหนังโฆษณาก็มีต่อยมวยด้วย ซึ่งผมก็ต่อยมวยอยู่แล้วด้วย”

"ภูมิใจ"

ถาม

ทำงานเยอะขนาดนี้เอาเงินไปไว้ไหนเนี้ย ?

พอร์ช

“ ก็เก็บครับ อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลังหนึ่ง รีบซื้อรีผ่อนจะได้หมดไว้ๆครับ และอีกอย่างผมเองก็ไม่เคยงกเรื่องของกินเลยครับ บางทีไปกัน 2 คนสั่งอาหารเป็นสิบอย่างเลยนะ แต่ถึงจะกินไม่หมดก็ไม่เสียดาย เพราะว่าเราทำงานเหนื่อยก็อยากกินอะไรที่มันดีๆที่เราอยากกิน ส่วนของอื่นๆ อย่างรถ ผมก็ซื้อรถ ซื้อไอแพด ก็ซื้อแต่ของที่จำเป็นที่ต้องใช้ครับ แต่ที่สิ้นเปลืองที่สุดของผมก็คือเรื่องกินนี่แหละครับ ( หัวเราะ )”

ถาม

ดูท่าว่าพ่อกับแม่ จะภูมิใจในตัวพอร์ชมากเลยนะเนี้ย ?

พอร์ช

“ (หัวเราะ ) เขาภูมิใจในตัวผมนะ เพราะผมไม่ขอเงินที่บ้านมาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่ 17 ตั้งแต่เริ่มเข้ามาถ่ายโฆษณา แล้วก็ได้เข้ามาเล่นหนัง เล่นละคร ก็ไม่ได้ขอเงินที่บ้านแล้วครับ แล้วตอนนี้ผมก็มีเงินเดือนให้พ่อกับแม่ด้วยทุกๆเดือน ให้เขาไปใช้ ผมก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองนะที่สามารถดูแลพ่อแม่ และทีมีวันนี้ได้ก็เพราะพ่อแม่นี่แหละครับ และอีกอย่างผมก็คิดว่าเป็นเพราะบุญที่เราทำไว้เมื่อชาติที่แล้วด้วย ตอนนี้วันไหนที่ต้องตื่นเช้าไปถ่ายละครผมจะตักบาตรตลอดครับ”





"สาว สาว สาว"

ถาม  ขอถามเรื่องสาวๆหน่อย หล่อหน้าใสขนาดนี้ มีสาวๆใจดวงใจบ้างยังเนี้ย ?
พอร์ช

“ ไม่มีเลยครับ จริงๆ มีแต่เพื่อนหมดเลย เคยมีเหมือนกันครับ ที่เข้ามาแล้วก็คุยๆกัน แต่คุยไปคุยมาก็กลายเป็นเพื่อนกันดีกว่า อีกอย่างเราเองก็ทำงานด้วย แล้วไหนจะดูแลครอบครัวอีก อีกอย่างเรายังดูแลตัวเองไม่ดีเลย แล้วเราจะดูแลใครได้ยังไง และอีกอย่างผมว่านะ ผมเองก็อายุยังน้อย ยังมีเวลาสำหรับเรื่องนี้อีกเยอะครับ”

ถาม  คิดว่าเมื่อไรจะพร้อม ?
พอร์ช

“ ก็คงอีกนานแหละครับ ต้องพร้อมจริงๆเลย”

ถาม  คิดจะบวชบ้างไหม ?
พอร์ช

“ คิดครับ อยากจะบวชให้พ่อให้แม่ ก็วางไว้ว่าปีหน้า ถ้าทุกอย่างลงตัวและอายุครบ แต่จริงๆผมเคยบวชเณรภาคฤดูร้อนมาแล้ว พ่อ แม่ จับบวชตอนนั้นเด็กๆอยู่ สนุก เพื่อนเยอะมาก (หัวเราะ )แต่สักครั้งในชีวิตเนอะ อยากจะบวชพระให้พ่อให้แม่ครับ”

* ดูประวัติ พอร์ช - ศรัณย์ ศิริลักษณ์

* ดูอัลบั้มรูป พอร์ช - ศรัณย์ ศิริลักษณ์

 


 
 

Box Office

เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.
เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.

บทสัมภาษณ์ทั้งหมด

 
 
 

ติดตามหนังดี : Youtube Instagram Facebook Twitter  

MMM Digital Asset Co.,Ltd.
109 อาคารซีซีที ชั้น 2 ถนนสุรวงศ์
แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
Tel. 0-2234-7535    FAX. 0-2634-4269
E-mail: webmaster@nangdee.com   © 2006 nangdee.com
แผนที่ | sitemap | ติดต่อโฆษณา