Top
สัมภาษณ์ดารา ยิปโซ -รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์


“ยิปโซ” พอใจกับสิ่งที่เป็น - ดาวต่างมุม

เป็นอีกหนึ่งสาวที่ดูภายนอกแล้วเหมือนจะเป็นสาวติสท์แตก บางครั้งก็ดูเอ๋อ ๆ แต่พอได้พูดคุยกับสาวมั่น ยิปโซ-รมิตา มหาพฤกษ์พงษ์ แล้ว ต้องบอกว่า เธอมีความคิดเป็นผู้ใหญ่มาก ๆ และมีความเป็นตัวของตัวเอง แต่ไม่เยอะจนเกินงาม วันนี้ “ดาวต่างมุม” ได้มีโอกาสเจาะลึกเธออย่างหมดเปลือก

ที่มา : เดลินิวส์



คำถาม
ช่วงนี้มีงานภาพยนตร์หลายเรื่องเลยนะ?
ยิปโซ
ค่ะ ก็มีเรื่อง “ส.ค.ส.สวีทตี้” ที่ผ่านมา และ “วาเลนไทน์ สวีทตี้” ส่วนโปรเจคท์ต่อไปคงรอคุยกับผู้กำกับอีกทีค่ะ “ส.ค.ส.สวีทตี้” ที่ฉายไปแล้ว กระแสดีมาก ก็ดีใจมากเลย พี่ยอร์ชเขาเข้าใจทำหนังที่
เปลี่ยนไปจากเดิม จากที่ทำหนังเน้นตลกเฮฮาก่อน แล้วความ
โรแมนติกค่อยตามมาทีหลัง คราวนี้เปลี่ยนมาเป็นหวานนำ ขำตาม โดยให้เป็นเรื่องของความรักมากกว่า ผลตอบรับเลยออกมาเป็น
แบบหนังน่ารักจังเลย ต่างจากเดิมที่ตลกจังเลย ดีใจนะคะ
ที่ทุกอย่างออกมาเป็นไปตามที่คาดไว้ ตอนนี้กำลังลุ้น “วาเลนไทน์ สวีทตี้” อยู่ค่ะ

 
คำถาม      
เห็นว่าทำงานพิธีกรด้วย?
ยิปโซ ใช่ค่ะ มีงานพิธีกรรายการ “อายุน้อยร้อยล้าน” และ “ซิสเตอร์เดย์” แล้วก็มีไปรับเชิญในรายการสอนภาษาอังกฤษของพี่แอน ทองประสม 9 เทป นอกจากนี้ยังมีงานดีเจคลื่น “แฟต เรดิโอ” เพิ่งเริ่มทำได้
ประมาณ 2-3 เดือนค่ะ งานด้านพิธีกรและงานด้านแสดงมันก็
คนละแบบกันอยู่แล้ว งานแสดงนั้นเราเล่นเป็นคนอื่นซึ่งไม่ใช่เรา ส่วนงานพิธีกรยังมีพื้นที่ไว้ให้เราเป็นตัวเองบ้าง แต่มันก็มีความยาก
ง่ายทั้งคู่ พิธีกรต้องอาศัยไหวพริบเยอะ ต้องมีสติ ทักษะการพูดต้องชัด ซึ่งหนูไม่มีสักอย่าง ก็ฝึกจนกว่าจะมีค่ะ เริ่มจากสติก่อน ต่อมาก็
พูดให้ช้าและชัด ให้มันถูกสุขลักษณะในการฟัง แต่ก่อนจะคุม
สปีดไม่ค่อยได้ ตอนนี้เริ่มคุมได้แล้วค่ะ



คำถาม       
ได้เรียนรู้อะไรจากงานพิธีกรและดีเจบ้าง?
ยิปโซ เยอะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทักษะการพูด การจัดเรียงความคิด คนทั่วไป
มักเข้าใจว่าการทำงานดีเจคือการออกมาพูด ๆ แล้วก็พูด ตราบใด
ที่พูดเก่งก็น่าจะทำมันได้ มันไม่จริงเสมอไป เพราะการที่จะพูดอะไร
ออกอากาศ คนที่ทำงานด้านนี้รู้ดีเลยว่าทุกคนต้องรับผิดชอบ
คำพูดของตัวเอง คือเราต้องมีสติ รู้ว่าจะพูดอะไรออกมา เพราะฉะนั้น
มันจึงเป็นการปรับระบบความคิดของเรามาก อีกอย่างหนูเป็นคนดูทีวี
น้อยมาก ข้อมูลข่าวสารเลยไม่เยอะเท่าที่ควร พอมาทำอาชีพดีเจ มันเหมือนบังคับให้เราต้องเป็นคนที่สนใจข่าวสารที่ควรจะรู้มากขึ้น
ไปในตัว เหมือนทุกครั้งที่เราเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสังคมใหม่ เราก็จะปรับระบบการเรียนรู้ของเราไปเอง เพื่อที่เราจะได้ตามทันในสิ่งที่
เราควรจะทัน และต้องรู้ในเรื่องนั้นจริง ๆ ไม่ใช่ไปฟังเขามาค่ะ ณ จุดนี้ยังอยากจะทำหลาย ๆ อย่าง งานพิธีกรก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งเราได้มีโอกาสในการทำตรงนี้ แต่คิดว่าตัวเองยังไม่ดีพอ
ที่จะเอาดีทางด้านนี้ ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ เพราะฉะนั้นไม่กล้าที่จะพูด
หรอกค่ะว่าตัวเองจะเอาจริงเอาจังทางนี้ เราคงต้องเก่งในระดับหนึ่งก่อน



คำถาม          แล้วจะได้เห็นยิปโซเล่นละครหรือเปล่า?
ยิปโซ
มันเป็นเรื่องของโอกาสค่ะ ดาราไม่ได้เลือกงาน แต่งานเลือกดารา เราคงไม่สามารถเลือกได้เองว่ายิปโซจะเล่นละครนะ ก็จะมีละคร
โผล่มาให้ยิปโซเล่น มันเป็นเรื่องที่เขาจะจ้างเราหรือเปล่า แล้วทางผู้ใหญ่จะโอเคกันหรือไม่ มันจะมีหลายด่าน แล้วทุกวันนี้
ดารานักแสดงก็เยอะมาก หารแบ่งกันไปตามสัดส่วน จริงๆแล้วก็
อยากทำงานที่หลากหลาย แต่คงไม่ใช่เป็นแบบเอาไม่อยู่สักอย่าง หนูเชื่อว่าคนเราทำทีละอย่างให้ดีก็ได้เหมือนกันนะ

คำถาม วางเป้าหมายในวงการบันเทิงอย่างไร?
ยิปโซ อยากทำงานแล้วไม่ผิดหวังในตัวเองค่ะ คือมีงานอะไรที่เราทำ
แล้วไม่เกลียดขี้หน้าตัวเองหลังจากทำไปแล้ว ถามว่าจะ
อยู่ตลอดไปไหม เราคงไม่ได้เป็นคนเลือก หรือว่าเราจะต้อง
ได้เงินเท่าไร เราก็ไม่ใช่คนเลือกเหมือนกัน หนูยังอยากทำงาน
ในวงการแบบที่ทำอะไรที่ตัวเองยังสามารถชอบตัวเองได้อยู่
และมีความสุขไปกับมัน


คำถาม ที่ผ่านมาพอใจในผลงานของตัวเองมากน้อยแค่ไหน?
ยิปโซ  
โดยรวมโอเคนะคะ แต่หนูเป็นคนธรรมดา คงยังไม่รู้จักพอเท่าไรหรอก ทุกวันนี้ยังมีจุดที่เอาแต่ใจตัวเอง อยากจะทำนั่นทำนี่ให้มันดีให้
มันมากขึ้น แต่พอมานั่งมองย้อนกลับไปจริง ๆ หนูว่าที่ทำมา
ทั้งหมดก็โอเคแล้วล่ะ พอใจมากแล้ว ได้เจอกองถ่ายที่น่ารักเหลือเกิน ได้ทำงานที่มีความสุข คนดูมีความสุข มันไม่น่าจะมีอะไรดีไปกว่า
นี้แล้วนะ บางครั้งมีคนถามว่าผลงานของเราเป็นแนวคอเมดี้
อย่างเดียว ไม่คิดจะเปลี่ยนบ้างเหรอ หนูว่าคอมเมดี้มี
เสน่ห์อย่างน่าทึ่งนะ แต่คนไม่ค่อยมอง มันเป็นงานศิลปะ
ที่สร้างความสุขแบบทันควันมาก ๆ อย่างถ้าเป็นหนังดราม่า มันต้องรอให้คนซึมซับ มันคนละศาสตร์กัน ส่วนคอมเมดี้ที่หนูเล่น เห็นได้ทันทีเลยว่าคนดูหัวเราะ ความสุขมันสำเร็จรูปโผล่ปิ๊งขึ้นมาเลย รู้สึกว่าเราได้ทำอะไรที่มีค่าต่อความรู้สึกของคนอื่นค่ะ

คำถาม คาแรกเตอร์ที่เล่นมีจุดไหนใกล้เคียงกับตัวจริงยิปโซบ้าง?

ยิปโซ หนูพยายามจะหยิบใช้เอาความเป็นธรรมชาติที่สุดของตัวเองลง
ไปในหนังอยู่แล้ว ไม่อยากให้ดูเหมือนประดิดประดอย แต่คนดูคงจะรู้สึกว่าคาแรกเตอร์การพูดการจาของหนูเป็นอะไร
ที่ใกล้เคียงกับตัวจริง ซึ่งมองอีกมุมคนอาจมองว่าเป็นคาแรกเตอร์
ที่ดูซ้ำหรือเปล่า ขอบอกว่ามันอาจเป็นลักษณะการพูดการจาที่ซ้ำ แต่ไม่ใช่คาแรกเตอร์ที่ซ้ำแน่นอน คงคล้ายตัวจริงในแง่บุคลิกภาพ ส่วนนิสัยใจคอไม่ค่อยคล้ายค่ะ


คำถาม ด้วยความที่เข้าวงการทั้งพี่ทั้งน้อง รู้สึกกดดันบ้างไหมว่าอาจถูกเปรียบเทียบ?
ยิปโซ กดดันภายในไม่มี แต่กดดันภายนอกมีแน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่าเรา
ควบคุมไม่ได้ ไม่รู้ทำไมสังคมจะต้องมีคำถามที่ว่าพี่น้องจะ
แข่งกันหรือเปล่า พี่มีงานนี้แล้วน้องมีงานไหม น้องมีงานเยอะกว่า
แล้วพี่จะรู้สึกอย่างไร มันแปลกว่าทำไมพวกเขาต้องสงสัยเรื่องพวกนี้
ขึ้นมา ทำไมไม่มีใครถามหนูว่าแฮปปี้ไหมที่ได้ทำงานกับพี่สาว
จะได้ไม่เหงา หรือการทำงานในวงการกับพี่สาวมันดีอย่างไร คือแทบไม่มีใครตั้งคำถามแบบนี้เลย ซึ่งคำถามที่ผู้คนและสังคมสงสัย
นั่นแหละคือแรงกดดันภายนอก ซึ่งเราห้ามไม่ได้จริง ๆ เหมือนเขา
คาดหวังว่าเราจะต้องแข่งขันกันตลอดเวลา รู้สึกว่าทำไมมันต้อง
ออกมาในรูปแบบนั้น แต่ด้วยความที่เราสองคนคุยกันเยอะ เรารู้สึกตรงกันมาก มันก็เลยไม่เหลือพื้นที่สำหรับแรงกดดันภายใน แค่ความไม่สบายใจเล็กน้อยจากสิ่งที่ได้ยินมาเท่านั้นค่ะ


คำถาม       
แล้วความรู้สึกที่ได้ทำงานในวงการกับพี่สาวเป็นอย่างไร?

ยิปโซ หนูดีใจมากที่เราได้ทำงานในวงการเหมือนกัน เพราะมันเป็นสิ่งที่
ทำให้เรากลับมาสนิทกันมากที่สุดในชีวิตอีกครั้ง สมัยก่อนเคยมีช่วง
ที่ห่างกันไปค่ะ นั่นคือตอนที่พี่ยิปซีเข้ามหาวิทยาลัย เพราะแต่ก่อน
เราจะเรียนที่เดียวกันมาตลอด ซึ่งมันทำให้เรากลับบ้านกันคน
ละเวลา บางทีไม่เจอกันเลย ห่างกันเป็นปี ๆ จนไม่คิดจะกลับมา
คุยกันอีกแล้ว แต่พอได้ทำงานในวงการ มันเหมือนมีเส้นอะไร
บางอย่างดึงเราทั้งคู่เข้ามาหากัน น่าจะเป็นประสบการณ์การ
ทำงานร่วมกันที่ทำให้เรามีเรื่องคุยกันแล้ว เข้าใจความรู้สึก
ของกันมากขึ้น ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไรนะ แต่ตอนนี้เรา
กลับมาสนิทกันใหม่ ซึ่งหนูคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก

 
คำถาม ยึดหลักอะไรในการทำงานวงการบันเทิง?

ยิปโซ เอาตัวเองให้อยู่ค่ะ ในวงการนี้ คนที่ทำงานตรงนี้ได้ ไม่ว่าจะ
เป็นดารา นักร้อง หรือว่างานเบื้องหลัง ต้องอาศัยพลังและแรง
เยอะมากในการดึงจิตใจของเราเอาไว้ไม่ให้ป่วย
เพราะมันมีเรื่องราวเกิดขึ้นเยอะเหลือเกินวงการนี้มันขับเคลื่อน
ได้ด้วยอารมณ์ความชอบและความไม่ชอบของคน และมันก็เปลี่ยน
ไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นหนูจึงยึดหลักสงบให้เป็น

คำถาม เรื่องของหัวใจตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
ยิปโซ ตอนนี้โสดค่ะ แต่ก็มีคนเข้ามาคุยบ้าง บางคนที่เรารู้สึกว่า
ไม่ใช่ก็เลิกคุยไป แล้วหนูเป็นคนที่ชอบใครยากด้วย ยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าสเปกผู้ชายที่ชอบเป็นอย่างไร แต่เรารู้สึกว่าถ้าเรายังไม่ได้ชอบคน ๆ หนึ่งมากพอ การอยู่ด้วยกันมันจะเป็นภาระมากกว่าความสุข เพราะชีวิตเรามีอะไรให้คิดเยอะอยู่แล้ว
คำถาม พ่อแม่มีห้ามเรื่องความรักบ้างไหม?

ยิปโซ ไม่ห้ามเลย เขาเริ่มเป็นห่วงแล้วด้วย แม่หนูห่วงตรงที่
ถ้ามีใครเข้ามาแล้วจะอันตรายไหม แต่พอไม่มีใครเข้ามา เขาก็จะเป็นห่วงว่าแล้วอนาคตลูกสาวเราจะอยู่กับใคร หนูบอกไม่เป็นไรแม่ หนูอยู่เองได้ เขาไม่เคยมานั่งบอกว่าอย่า ไม่ให้ หรือว่าหวง เพราะเขาคงรู้ว่ากว่าจะผ่านด่านแรก
ซึ่งก็คือตัวหนูเอง แล้วไปถึงด่านเขา มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นเยอะ เขาเลยไม่ต้องห่วงมาก หนูโอเคมาก ๆ กับการอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านการอยู่กับคนอื่นนะ หนูไม่เคยรู้สึกขาดเวลา
อยู่คนเดียว แต่ถ้ามีใครที่เรารู้สึกชอบและเขาเข้ามาเพิ่มเติมได้ มันคงเป็นความสุขอีกก้อนที่เข้ามาต่อมาแปะกัน แต่ถ้ามันไม่เกิดขึ้นก็ไม่เป็นไร เพราะชีวิตหนูไม่ได้ขาดอะไรค่ะ

คำถาม ฝากผลงานกับแฟนๆ หน่อย?

ยิปโซ ขอฝากผลงานหนัง “วาเลนไทน์ สวีทตี้” นะคะ แล้วก็ฝากรายการ “อายุน้อยร้อยล้าน” เวลา 10.30 น. วันเสาร์ ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ฝากรายการ “ซิสเตอร์เดย์” เวลา 14.50 น. วันเสาร์ ทางช่อง 5 แล้วก็ฝากติดตามคลื่นแฟต เรดิโอ เอฟเอ็ม 104.5 ตั้งแต่เวลา 22.00-24.00 น. วันเสาร์เหมือนกัน หวังว่าทุกคนจะมีความสุขไปกับมันนะคะ

* ดูประวัติ รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์ - ยิปโซ

* ดูอัลบั้มรูป รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์ - ยิปโซ





 
 

Box Office

เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.
เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.

บทสัมภาษณ์ทั้งหมด

 
 
 

ติดตามหนังดี : Youtube Instagram Facebook Twitter  

MMM Digital Asset Co.,Ltd.
109 อาคารซีซีที ชั้น 2 ถนนสุรวงศ์
แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
Tel. 0-2234-7535    FAX. 0-2634-4269
E-mail: webmaster@nangdee.com   © 2006 nangdee.com
แผนที่ | sitemap | ติดต่อโฆษณา