Top
สัมภาษณ์ดารา ริท - เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช


สุดปลายทางความฝันกับวันที่ไม่ใช่ "ริท เดอะสตาร์"



เมื่อเกือบ 2 ปีแล้วคนไทยทั่วทั้งประเทศ ได้รู้จักกับเด็กหนุ่มนักเรียนแพทย์ตัวจ้อยที่ชื่อ "ริท" เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช
หรือที่หลายคนรู้จักเขาในนาม "ริท เดอะสตาร์" เด็กหนุ่มที่พกพาเอาความน่ารัก สดใส และความเป็นตัวของตัวเอง
มาชนะใจของใครหลายๆคน

แต่มาวันนี้เขากำลังจะเดินจากวงการบันเทิงนี้ไป เพื่อสร้างอนาคตในเส้นทางของตัวเอง และเมื่อเขากำลังจะโบกมือ
บ๊าย...บายวงการแห่งแสงสีเสียงนี้ไป

"คม ชัด ลึก" เลยขอถือโอกาสนี้จับหนุ่ม "ริท" มาพูดคุยถึงชีวิตของริทตลอด 2 ปีที่ผ่านมากัน


ที่มา : คม ชัด ลึก



2 ปีกับทางฝัน
ถาม

ปีกับชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหมจากเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาเป็น ริท เดอะสตาร์

ริท

ถ้ามองว่าคุ้มไหม สำหรับริทบอกเลยว่าคุ้ม เพราะว่ามันได้ประสบการณ์หลายอย่าง ชีวิตทั่วไปของริทคงไม่มีโอกาสที่จะได้ทำอะไรแบบนี้อย่างแน่นอน ทั้งได้เล่นละคร ได้มีเพลงของตัวเอง ได้มีอัลบั้ม ได้ขึ้นคอนเสิร์ต ได้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป คือไม่ได้เป็นอะไรที่ใครอยากจะเป็นก็เป็นได้

      ถ้าถามว่าเปลี่ยนไปเยอะไหม ริทแบ่งความเปลี่ยนของเราออกเป็นสองอย่าง คือถ้าในเรื่องของความมีชื่อเสียง การงาน และเรื่องของความรับผิดชอบ ถ้าตรงนี้เปลี่ยนไปเยอะมาก เพราะเราเป็นที่รู้จักของประชาชน ไปไหนมาไหนคนก็รู้จัก เราจะมาทำตัวเป็นเด็กๆ เที่ยวสนุกไปวันๆ หรือจะตื่นสายไม่ไปทำงานมันไม่ได้ เราต้องรักษาเวลา ถ้าเกิดเป็นเรื่องของพวกนี้ จะต้องเปลี่ยนไป แต่ถ้าเกิดเป็นเรื่องของตัวตน นิสัยใจคอ ความเป็นเรา ตรงนี้คือไม่เปลี่ยน ตั้งแต่เราเข้ามาอยู่ตรงนี้ เราเข้ามาด้วยความเป็นตัวเองของเรา และทุกคนก็เห็นริทที่เป็นแบบนี้

ถาม

วงการนี้ให้อะไรกับ "ริท" บ้าง

ริท

อย่างแรกคือความรับผิดชอบ เพราะการที่มาอยู่ตรงนี้ ทำให้เราโตขึ้น ต้องดูแลตัวเองในทุกอย่าง เพราะว่าริทมาอยู่ที่นี่คนเดียว มันทำให้เราเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองมากกว่า ตอนที่เราเป็นนักเรียนแพทย์ปกติ และสิ่งต่อมา คือความรักที่ทุกคนมีให้ ทั้งแฟนคลับ พี่ๆ ทีมงาน เพื่อนๆ ในวงการ และร่วมถึงพี่ๆ สื่อด้วย เพราะทุกคนให้ความรักและหวังดีกับริทมาตลอด ทำให้การอยู่ตรงนี้ของริทไม่เหงาเลย (ยิ้ม)



สละทิ้งความฝัน
ถาม

ความฝัน 2 ปีของ "ริท" กำลังจะต้องจบลง เพราะจะไปเรียนต่อคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ริท

(คิดอยู่พักหนึ่ง) ตอนแรกริทต้องบอกเลยว่า ริทตั้งใจว่าจะทำงานอยู่ตรงนี้แค่ปีเดียวด้วยซ้ำ แต่ว่ามีเหตุฉุกเฉิน คือว่างานที่เข้ามามันต่อเนื่องยาว ในตอนแรกริทคิดว่าแค่ปีเดียว คงไม่มีใครจ้างแล้ว เพราะว่าเดี๋ยวก็ต้องมีรุ่นน้องรุ่นใหม่มา คงไม่มีอะไรทำ แต่ปรากฏว่าหนึ่งปีผ่านไปงานก็ยังเยอะอยู่เลย และเคลียร์ไม่ได้ จนเราต้องขอดร็อปเรียนเพิ่มอีกหนึ่งปี เพราะฉะนั้นริทเลยไม่อยากจะคิดว่ามันเป็นเวลาแค่ 2 ปี สำหรับริทความรู้สึกตรงนี้เป็นเหมือนกำไร ที่เราอาจจะต้องยอมขาดทุนในเรื่องของการเรียนที่ริทต้องเรียนช้าไปกว่า เพื่อน แล้วถ้าเกิดริทไม่ประกาศว่าริทจะกลับไปเรียนแล้วนะ มันจะกลายเป็นว่าริทก็ยังต้องทำงานอยู่เรื่อยๆ และอาจจะไม่ได้กลับไปเรียนเลย ริทเลยตัดสินใจว่าริทขอหยุดแค่ตรงนี้ดีกว่า

ถาม

เป็นการที่ตัดสินใจที่ยากที่สุดไหม

ริท

ตัดสินใจยากมาก ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจริทนอนคิดกับตัวเองหลายคืนมาก มาปรึกษาพี่ที่อยู่ในบริษัทด้วยกันหลายคนมาก ปรึกษาอาจารย์ ไปสอบถามข้อมูลหลายที่ คือก่อนจะตัดสินใจริทคิดละเอียดถี่ถ้วนมาก เพราะคนรอบข้างเราทั้งแฟนคลับ ทั้งคนที่รู้จักเราต่างรุมเร้าเข้ามา บางคนก็มาบอกให้เราเรียนต่อเถอะ แต่บางคนก็บอกว่าไม่ต้องเรียนแล้ว ทำให้การที่เรามาอยู่ตรงนี้มันเป็นการตัดสินใจที่ยากมา เพราะมันไม่ใช่แค่เราตัดสินใจแล้วมันจะจบๆ ไป มันมีคนข้างนอกอีกที่เขารอคำตอบจากเราว่าเราจะเอายังไงต่อไป

ถาม

ทำไมถึงเลือกตัดสินใจว่าจะทิ้งความฝันตรงนี้ไป

ริท

จริงๆ ในตอนแรกริทตัดสินใจว่าจะย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เพื่อจะได้เรียนไปทำงานไป ก็ไปดำเนินเรื่องหมดแล้วทั้งมหาวิทยาลัยที่จะไปอยู่ และเดินทางไป ม.ขอนแก่น เพื่อทำเรื่องโอนย้ายและลาอาจารย์ แต่พอไปถึงปุ๊บก็ได้เจอภาพบรรยากาศเก่าๆ เจอเพื่อนเก่า เจออาจารย์ที่เคยสอนเรา มันทำให้เราคิดถึง (น้ำตาซึม) ที่เดิมๆ ที่เราเคยอยู่ พอเสร็จปุ๊บเดินไปไหนมาไหน ทุกคนก็ทักว่าริทจะกลับมาเรียนแล้วเหรอ และเขาก็ทำหน้าว่าเขาดีใจมาก เหมือนเขามีความสุขที่เห็นเรากลับมา โดยที่ทุกคนไม่รู้ว่าริทมาเพื่อทำเรื่องย้าย ริทเองไม่กล้าบอกเขาด้วยว่าเปล่า ริทจะมาย้าย ริททำได้แค่ยิ้มๆ ไป จนริทไล่ลาทีละคน จนมาถึงคณบดี คือคนสุดท้ายท่านก็ดีมาก เขาเป็นห่วงเราว่าริทจะไปอยู่ที่นั่น ริทจะเรียนได้ไหม ใครจะดูแลเรา เราจะต้องไปพบสังคมใหม่ และต้องทำงานไปด้วย เขาก็กลัวว่าเราย้ายเข้ากรุงเทพฯ แล้วจะมองแต่งานจนลืมเรียน เมื่อได้รับคำแนะนำหลายๆ อย่าง ทำให้เราคิดได้ เริ่มรู้สึกว่ามันก็จริง เพราะตรงนี้มีคนที่พร้อมจะช่วยเหลือ เราเลยตัดสินใจสุดท้ายว่าเราจะอยู่ที่ขอนแก่นที่เดิม




ถาม

ต้องทิ้งงานในวงการ ทิ้งแฟนคลับและทิ้งความสุขตรงนี้ไป มันเศร้ามากแค่ไหน

ริท

งานตรงนี้สิ่งต่างๆ ตรงนี้ทำให้ริทมีความสุขมาก และดีใจที่ได้อยู่ตรงนี้ แต่เมื่อเราเลือกตัดสินใจแล้ว มันก็ต้องยอมรับ ถามว่าเสียใจก็ต้องบอกว่ามีเสียใจ เพราะเราอาจจะต้องเลิกทำตรงนี้ไปเลย (เสียงอ่อย) แต่ริทพยายามมองในแง่ดีว่าไม่เป็นไร เราแค่กลับไปเรียน ไปทำตามสิ่งที่เราเคยตั้งความหวังไว้ และมันก็เป็นอนาคตที่เรามองเห็นและสัมผัสได้จริงๆ พอคิดแบบนี้มันเลยทำให้เราไม่นอยด์มาก

ถาม

ครอบครัวว่าอย่างไรกับการตัดสินใจในครั้งนี้

ริท

โดยก่อนหน้านี้ริทเองไม่เข้าใจ ว่าทำไมพ่อถึงอยากให้ริทกลับไปเรียน คิดว่าเขาหัวโบราณหรือเปล่า ที่ลูกจะต้องเรียนหมอถึงจะประสบความสำเร็จ ตอนแรกๆ ริทค้านตรงความคิดนี้มาก เพราะริทคิดว่าไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไร เราทำอะไร เราสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ และทำให้พ่อแม่ภูมิใจได้ ทำให้เราค้านในความคิดนี้ ทำให้เราไม่อยากที่จะกลับไปเรียนเท่าไหร่ แต่ผู้ใหญ่ที่ริทเคารพหลายคนต่างบอกให้ริทกลับมาเรียนเถอะ เขาก็บอกว่างานตรงนี้ไม่ยั่งยืน เราฟังตรงนี้แล้วกลับมาคิดว่ามันก็จริง และริทขอยืนยันเลยว่าการตัดสินใจครั้งนี้ เป็นความคิดของริทเอง ไม่เกี่ยวกับพ่อริทเลย พ่อไม่ได้บังคับริทให้แก่ไปเรียนด้วย ริทเป็นคนตัดสินใจคนเดียว คือริทนอนไม่หลับหลายเดือนมากกับการตัดสินใจในครั้งนี้ (ยิ้ม)

ถาม

จะไปอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่

ริท

ริทไปเรียนมาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาแล้ว แต่เป็นการทบทวนบทเรียน ริทก็ขึ้นลงระหว่างขอนแก่นกับกรุงเทพฯ ทำงานด้วยเรียนด้วย คือตอนนี้มันเป็นการทบทวนบทเรียน ซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าจะต้องไปเรียนทุกชั่วโมงทุกวิชา มันทำให้ริทยังกลับมาทำงานได้บ้าง แต่มิถุนายนปีหน้าคงจะต้องไปเรียนจริงจัง เพราะเปิดภาคการศึกษาใหม่แล้ว หลังจากนั้นคงต้องเข้าเรียนทุกวัน ไม่สามารถขาดเรียนได้แล้ว




อนาคตต่อจากนี้
ถาม

ถ้า 5 ปีเรียนจบ จะกลับมาทำงานในวงการอีกไหม

ริท

ริทว่ามันขึ้นอยู่กับว่าริทจะกลับมาได้ด้วยหรือเปล่า เพราะว่าดารานักร้องเกิดใหม่ทุกวัน แล้วอีก 5 ปีข้างหน้า ก็ไม่รู้ว่าตัวริทเองจะเป็นยังไง อีก 5 ปีเรื่องของหน้าตา ความสามารถของริทจะยังสู้พวกน้องๆ ใหม่ได้ไหม และที่สำคัญคือเรื่องของงาน เพราะว่าเราอาจต้องไปปฏิบัติงานทางการแพทย์ จนไม่รู้ว่าจะมาทำงานตรงนี้ได้ไหม เพราะถ้าถามว่าริทอยากกลับมาได้ไหม ริทอยากที่จะกลับมา แต่ริทเองไม่รู้ว่าจะกลับมาได้หรือเปล่า เราเองไม่อยากที่จะคาดหวังว่าเราจะได้กลับมา เพราะถ้าเกิดเรายังคาดหวังอยู่ มันทำให้เราไม่ลืมตรงนี้ซะที และถ้าเราไม่ได้กลับมา เราก็จะเสียใจและผิดหวัง เลยยังไม่อยากคิดอะไรไว้ ปล่อยให้เป็นไปตามอนาคต ถึงแม้ว่าริทไม่ได้กลับมาทำงานในวงการนี้ แต่ริทก็มีอาชีพที่ดี มีอนาคตที่ดีที่หลายคนวาดฝันไว้เหมือนกัน

ถาม

หายไป 5 ปีคิดไว้ไหมว่าถ้ากลับมาแล้วแฟนคลับจะยังอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า

ริท

ริทคิดว่าแฟนคลับริทที่เขารักริทจริงๆ ริทเชื่อว่าต่อไปจากนี้อีก 5 ปี หรือ 10 ปี ถึงพวกเขาจะไม่ได้มาตามริท หรือมาคอยสนับสนุนริทเหมือนตอนนี้ แต่ริทเชื่อว่าแฟนคลับที่เขารักริทจริงๆ เขาจะไม่ลืมริท ถึงแม้ริทจะไปเรียน 5 ปีหรือหายไปนานกว่านั้น ริทก็ไม่ได้เรียกร้องให้เขาต้องมาคอยตามริท และคอยสนับสนุนริท หรือห้ามไปเชียร์ใครคนอื่น เพราะสำหรับริท แค่เขายังจำริทได้มันเพียงพอแล้ว เพราะสำหรับริท ริทยังคิดถึงทุกคนเสมอ

ถาม

ตอนที่แฟนคลับรู้ว่า "ริท" จะกลับไปเรียน ปฏิกิริยาเป็นอย่างไง

ริท

วันที่ริทประกาศออกไปว่าจะกลับไปเรียน ได้ยินมาว่ามีแฟนคลับหลายคนโทรไปหาสำนักข่าวตามหนังสือพิมพ์ต่างๆ เพื่อถามข้อเท็จจริง และมีหลายคนที่ร้องไห้ตอนที่รู้ข่าวนี้ อย่างวันที่ริทต้องกลับไปทบทวนบทเรียนวันแรก มีแฟนๆ ไปส่งกันเต็มสนามบินเลย ซึ่งมีหลายคนที่ไปส่งแล้วร้องไห้กัน (พูดด้วยน้ำเสียงเศร้า) ริทก็บอกเขาว่าไม่เป็นไร ริทแค่ไปทบทวนบทเรียนเฉยๆ เรายังเจอกันอยู่ ตัวริทบอกเลยว่าริทไม่อยากให้ทุกคนเสียใจ เพราะว่าริทกลับไปเรียน ไปมีอนาคตที่ดี ไปในทางที่ดี เพราะมันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเลย




ถาม

ฝากอะไรถึงแฟนๆ

ริท

แฟนคลับของริทเป็นคนหนึ่งที่ริทลำบากใจที่จะบอกที่สุดว่าจะไปแล้ว เพราะเขาเป็นคนที่อยู่กับเรามาตลอด และช่วยเหลือเรามาตลอด พอจะมาบอกว่าลามันเลยค่อนข้างสะเทือนใจ แต่สิ่งที่อยากบอกคือขอบคุณที่อยู่ข้างๆ ริท ทำทุกอย่างเพื่อเรา และคอยสนับสนุนริทมาตลอด ด้วยความรักที่เขามีให้ ริทเองไม่รู้ว่าจะตอบแทนเขายังไง ริทขอบอกว่าริทดีใจที่มีทุกคนเป็นแฟนคลับ ริทจะไม่ขอให้ทุกคนรอ แต่ริทจะขอให้ทุกคนไม่ลืมริท

รักที่ว่างเปล่า
ถาม

ข่าวเยอะแต่เป็นข่าวกับผู้ชายซะส่วนใหญ่

ริท

ต้องบอกตรงนี้ก่อนว่าข่าวแต่ละข่าวที่ออกมาของริท เป็นข่าวที่ริทไม่ได้รู้เรื่องเลย อย่างล่าสุดกับเม้าท์ บีโอวาย เราเองไม่รู้จักกับเขาเป็นการส่วนตัว หรือข่าวกับเพื่อนริทที่ภาพหลุดออกมาตอนที่เข้าวงการมาใหม่ๆ มันเป็นเรื่องใหญ่โตมาก พอหลังจากนั้นพอเจอเพื่อนคนนั้น ริทก็บอกเลยว่าอย่ามาถ่ายรูปใกล้ริท และถ้าจะถ่ายไปก็อย่าไปโพสต์ (หัวเราะ) ตัวริทเองพยายามทำทุกอย่างที่ไม่เป็นข่าว และไม่ได้ทำอะไรที่เป็นข่าว แต่ริทเองไม่ได้เครียดกับข่าวอยู่แล้ว ออกจะสนุกกับข่าวที่ออกมาด้วยซ้ำไป แต่ถามว่ามีคนมองว่าริทเป็นแบบนั้น มันมีอยู่แล้วเพราะข่าวออกไปแบบนั้น

ถาม

แล้วสาวๆ มีเข้ามาไหม หรือกลัวว่าเราเป็นไปตามข่าว

ริท

เท่าที่ผ่านมายังไม่ได้มีสาวคนไหนที่คิดว่าริทเป็นไป ตามข่าว แต่ว่าตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีใครที่เข้ามาเป็นตัวจริงของเรา เพราะว่าริทเคยมีแฟน แล้วรู้สึกว่าเราอยากที่จะอยู่กับเพื่อนมากกว่า พอมีแฟนเราคลุกอยู่กับแฟนแค่นั้น ไม่ได้อยู่กับเพื่อน ซึ่งสำหรับเรา เราอยากที่จะสนุกสนานกับเพื่อน เลยขอเลือกที่จะอยู่แบบนี้ดีกว่า แต่ถามว่าเหงาไหม เหงาแต่ก็โชคดีที่มีเพื่อน


* ดูประวัติ ริท - เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช

* ดูอัลบั้มรูป ริท - เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช




 
 

Box Office

เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.
เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.

บทสัมภาษณ์ทั้งหมด

 
ยังไม่มีข้อมูล
หน้าแรกย้อนกลับ [ 1 ] หน้าถัดไปหน้าสุดท้าย
 
 

ติดตามหนังดี : Youtube Instagram Facebook Twitter  

MMM Digital Asset Co.,Ltd.
109 อาคารซีซีที ชั้น 2 ถนนสุรวงศ์
แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
Tel. 0-2234-7535    FAX. 0-2634-4269
E-mail: webmaster@nangdee.com   © 2006 nangdee.com
แผนที่ | sitemap | ติดต่อโฆษณา