ข่าว > ข่าวดาราทั้งหมด > ข่าวดาราเทศ

เอซรา มิลเลอร์ เปิดใจถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในตอนจบ The Crimes of Grindelwald เป็นครั้งแรก

22 พ.ย. 2561 09:21 น. | เปิดอ่าน 1381 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

ก่อนอื่นต้องขอเตือนก่อนเลยว่าสำหรับใครที่ยังไม่ได้ชม Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald และไม่อยากโดนสปอยล์ใด ๆ ทั้งสิ้น ก็กดปิดข่าวนี้ไปก่อนได้เลย แต่แน่นอนว่าสำหรับคนที่ได้ชมกันไปแล้วก็คงจะตื่นเต้นและอยากจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเซอร์ไพร์ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในตอนจบกันแล้วใช่มั้ย?

 

 

ล่าสุดทาง EW ได้คว้าตัว เอซรา มิลเลอร์ (Ezra Miller) มาจับเข่าคุยเปิดใจถึงตัวตนที่แท้จริงของ ครีเดนซ์ แบร์โบน เป็นครั้งแรก ซึ่งคนที่ได้ชมกันแล้วก็คงจะรู้แล้วว่าชื่อจริง ๆ ของ ครีเดนซ์ นั่นก็คือ ออเรเรียส ดัมเบิลดอร์ ที่ทำให้เชื่อกันว่าเขาน่าจะเป็นน้องชายของ อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ตัวละครที่รับบทโดย จู๊ด ลอว์ (Jude Law) นั่นเอง "ตอนนั้นผมรู้สึกทั้งช็อค ทั้งมึน ทั้งสับสน เพ็ตตริฟิคัส โททาลัส ด้วยความสงสัยแล้วก็ความดึงดูดใจ และผมเองก็ยังมีคำถามอีกเยอะแยะเลยที่ผมก็ยังไม่รู้คำตอบเหมือนกัน"

มิลเลอร์บอกว่าเขาได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของ ครีเดนซ์ เป็นครั้งแรกตอนเดินสายโปรโมทหนัง Fantastic Beasts and Where to Find Them ภาคแรกเมื่อปี 2016 โดย เจ.เค. โรว์ลิ่ง (J.K. Rowling) เป็นคนให้ข้อมูลเบื้องต้นกับเขา มิลเลอร์ยังบอกอีกว่าการได้รู้ว่าเขาเองก็เป็น ดัมเบิลดอร์ คนหนึ่งมันเป็นเหตุให้เขารู้สึกกระสับกระส่ายกับการแสดงในหนังภาคต่อเล็กน้อย "ใช่เลย แน่นอน ระดับที่ยากจะเข้าใจสุด ๆ เลยล่ะ ตัวละครนี้มันเปลี่ยนไป มันกำลังก้าวผ่านความเปลี่ยนแปลงโดยเนื้อแท้ด้วยความเกี่ยวดองกับออบสคูเรียล ซึ่งเรารู้ดีว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา ด้วยความที่เขาเปลี่ยนไป มันก็มีโอกาสสำหรับผมในฐานะนักแสดงเพื่อที่จะได้มองไปยังงานแสดงสุดโปรดทั้ง 5 ของผม ผู้คนที่ผมได้เห็นเขารับบทเป็น อัลบัส กับ อาเบอร์ฟอร์ธ ตะโกนออกมาให้นักแสดงที่น่าทึ่งเหล่านั้นได้ยิน และผมก็ตื่นเต้นที่จะได้เล่นเกมส์ที่ตอนนี้เราเกี่ยวดองทางสายเลือดกันแล้ว มันสนุกมากเลยล่ะ แล้วมันก็มีความเชื่อมโยงที่น่าสนุกกับชื่อ ออเรเรียส ที่มอบให้กับหนึ่งในนักแสดงที่ได้เล่นเป็น ดัมเบิลดอร์ ด้วย"

 

 

มันยังมีอีกหลาย ๆ ประเด็นในตอนจบที่ยังไม่ชัดเจน อย่างเช่นว่า จริง ๆ แล้ว อัลบัส รู้หรือยังว่า ครีเดนซ์ เป็นน้องชายของเขา? ซึ่งตัว มิลเลอร์ เองก็ยังไม่รู้เช่นกัน "แท้จริงแล้วเราก็ไม่รู้หรอก จู๊ดเขารู้ แต่เขาคงไม่บอกเราหรอก"

การเปิดเผยครั้งนี้มันได้ท้าทายสกิลโคนันของเหล่าสาวกโลกเวทมนตร์เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับอีกหลาย ๆ ประเด็นที่ยังดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล อาทิ ระยะห่างระหว่างอายุของ อัลบัส กับ ออเรเรียส แต่ตัว มิลเลอร์ เองก็ไม่ได้กังวลกับเรื่องพวกนั้นสักเท่าไหร่ เพราะเขาเชื่อว่า โรว์ลิ่ง จะไม่วางจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ไว้โดยไร้คำอธิบายใด ๆ ในใจ "โจเธอเก่งเรื่องแบบนั้นมากเลยนะ เธอรู้เรื่องลับ ๆ ดีมาก ผมว่าเธอแค่กำลังทำให้พวกคุณสับสนกันไปชั่วขณะ แล้วก็คงอยากจะให้แฟน ๆ รู้สึกว่า 'เดี๋ยวนะ นั่นมันไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเอาซะเลย!' แล้วจากนั้นเธอก็จะโชว์ให้พวกคุณได้เห็นว่าหลาย ๆ อย่างที่พวกคุณเคยคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผล มันสมเหตุสมผลสุด ๆ ไปเลยล่ะ ผมว่าเธอสนุกที่ได้เห็นผู้ชมไม่เข้าใจมันไปชั่วขณะ เธอทำแบบนั้นกับพวกเรามาหลายครั้งแล้ว"

เมื่อรุกเร้าถามถึงการคาดการณ์เกี่ยวกับตัวละคร ครีเดนซ์ ในอนาคต มิลเลอร์ ก็ตอบอย่างเคร่งขรึมว่า "ไม่มีทรีย์ลอว์นีย์นะ แต่เขาจะต้องเสี่ยงกับเรื่องนี้ ถ้าคำถามของหนังเรื่องแรกคือ What แล้วคำถามของหนังเรื่องนี้คือ Who จากที่ผมคาดเดาเองนะ ถ้าผมจะทำอะไรอีกคำถามของ ออเรเรียส ในหนังเรื่องต่อไปก็คงจะเป็น Why ถามว่าทำไมด้วยคำอื่น ๆ ออเรเรียสถูกทอดทิ้งจากครอบครัวของเขาแล้วก็หนีไปซ่อนตัวหรอ"

 

 

นอกจากนี้ มิลเลอร์ ยังบอกอีกว่า ออเรเรียส สามารถควบคุมการใช้พลังของเขาได้ดีกว่าเดิมมากอีกด้วย "ตอนที่ออบสคูรัสหลุดออกมาในหนังภาคแรก มันได้สังหารพี่น้องในบ้านอุปถัมภ์ของเขาไปด้วย แล้วก็คาดว่าน่าจะมีใครอีกหลายคนถูกกำจัดไปในนิวยอร์กซิตี้ตอนที่มันปั่นป่วนไปทั่ว ในจุดนี้มันก็มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พวกเขาถูกโจมตี แล้วนากินีก็ปลอดภัยในการปะทะครั้งนั้น เครื่องมือแบบนั้นมันคือการโฟกัสไปโดยตรงเพื่อมนต์คาถาที่มีอยู่ก่อน คุณลองนึกถึงการขุดทางน้ำให้มันใหลลงไปยังส่วนต่าง ๆ ของป่าดู มันก็เหมือนกับการเปรียบเปรยของศิลปินนั่นแหละ ถ้าคุณสามารถเอาชีวิตรอดจากความชอกช้ำของคุณได้ หลังจากนั้นคุณก็จะรอดพ้นด้วยการอยู่รอดของคุณจากมัน และถ้าคุณสามารถเข้าใจถึงความสำคัญของการควบคุมมัน พลังที่คุณไม่รู้จักพวกนั้นมันก็จะอยู่บนพื้นผิวของสรรพสิ่งทั้งหลายบนโลกนี้"

มิลเลอร์เผยว่าเขาค่อนข้างจะตื่นเต้นที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในทีมของ กรินเดลวัลด์ ร่วมกับ อลิสัน ซูดอล (Alison Sudol) "ทั้งอลิสันและผมต่างก็ตื่นเต้นมากที่ได้ไปอยู่ฝั่งตัวร้ายที่แสนคลุมเครือ เพราะตัวร้ายโดยทั่วไปมักจะถูกเสมอ ส่วนตัวเอกของเรื่องโดยทั่วไปมักจะคงไว้ซึ่งสถานภาพในปัจจุบัน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงรักตัวร้าย เพราะพวกเขาออกมาแล้วก็พยายามทำให้หลาย ๆ อย่างมันเปลี่ยนแปลงไป จากนั้นมันก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการฟื้นฟูพลัง และศักยภาพเพื่อที่จะทำให้มันดี โจเธอได้ทำชิ้นงานที่น่าทึ่งแบบนั้นเอาไว้ เธอย้ำเตือนให้เห็นว่าสิ่งที่มันดีกว่าความร้ายกาจแบบซื่อบื้อ ๆ ก็คือความฉลาดของการดูแลเอาใจใส่มนุษอย่างยอดเยี่ยม"

ที่มา: Ew.com

 

: เอซรา มิลเลอร์, Fantastic Beasts 2

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ผู้กำกับ แอนดี้ มุสชิเอตติ เผยเหตุผลเบื้องหลังฉากเปลือยของ เอซรา มิลเลอร์ ในภาพยนตร์ The Flash
  • ผกก. The Flash อยากให้ เอซรา มิลเลอร์ กลับมารับบทเดิมอีกหากมีภาคต่อ
  • เมื่อฮีโร่ทำให้มิติโลกปั่นป่วน! พบกับ เอซรา มิลเลอร์ ในตัวอย่างล่าสุดจาก "The Flash - เดอะ แฟลช"
  • ทุกมิติโลกมาปะทะกัน! พบกับใบปิดและตัวอย่าง "The Flash - เดอะ แฟลช" 15 มิถุนายน ในโรงภาพยนตร์
  • เมื่อมิติโลกยุ่งเหยิงด้วยฝืมือฮีโร่! พบกับตัวอย่างแรก The Flash เข้าฉาย 15 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :