ข่าว > ข่าวสัพเพเหระทั้งหมด > Webmaster Talk

25 เกร็ดหลังม่านออสการ์ 2019 หรูหราสมฐานะรางวัลใหญ่แห่งฮอลลีวูด!

22 ก.พ. 2562 13:36 น. | เปิดอ่าน 1444 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

อีกไม่กี่อึดใจงานประกาศรางวัล อะคาเดมี อวอร์ดส์ (Academy Awards) หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ ออสการ์ (Oscar) ก็กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว แน่นอนว่าเป็นอีกปีที่มีภาพยนตร์ นักแสดง รวมถึงผู้อยู่เบื้องหลังมากฝีมือได้รับการเสนอเข้าชิงมากมาย และเนื่องจากเป็นเวทีรางวัลที่จัดว่ายิ่งใหญ่ที่สุด ทรงเกียรติที่สุดแบบนี้ เราก็มีเกร็ดน่ารู้น่าสนใจเกี่ยวกับ ออสการ์ ครั้งที่ 91 ประจำปี 2019 มาฝากวันนี้ ก่อนไปลุ้นผลรางวัลแต่ละสาขาพร้อมกันในวันจริง ใครเป็นแฟนหนังตัวยงบอกเลยว่าห้ามพลาด!

 

 

- งานออสการ์ 2019 จัดขึ้นที่ โรงละครดอลบี (Dolby Theatre) ชื่อเดิมคือ โรงละครโกดัก (Kodak Theatre) ย่านฮอลลีวูด ลอสแอนเจลลิส ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานมาตั้งแต่ปี 2002 รองรับผู้ชมได้กว่า 3,300 ที่นั่ง 

 

- งานออสการ์ 2019 ใช้งบประมาณทั้งหมด 44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,370 ล้านบาท) 

 

- ตัวรางวัลออสการ์ ตุ๊กตาทอง ชุบทองคำแท้ 24 กะรัต มูลค่าราคา 400 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 12,500 บาท)

 

- ดารา-นักแสดงคนดังที่มาร่วมงานลงทุนกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 310 ล้านบาท) สำหรับเนรมิตลุคพรมแดงให้สวยเป๊ะ หล่อปัง 

 

- เคท บลันเชตต์ (Cate Blanchett) คือผู้สร้างสถิติ ดาราที่ลงทุนกับลุคพรมแดงออสการ์มากที่สุด ในปี 2014 สิริรวมค่าเครื่องแต่งกายตั้งแต่หัวจรดเท้าได้ 18.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 560 ล้านบาท) อันได้แก่ เดรสแบรนด์ Armani Prive, ต่างหูโอปอล์แท้ 62 กะรัต รวมถึงกำไลข้อมือและแหวนเพชรแท้

 

- พรมแดงงานออสการ์ไม่ใช่พรมแดงธรรมดาทั่วไป แต่เป็นพรมแดงสีเบอร์กันดีมีชื่อเฉพาะว่า อะคาเดมี เรด (Academy Red) เพื่อสร้างเอกลักษณ์ ความขลัง ไม่เหมือนใคร ใช้ความยาวประมาณ 16,500 ตารางฟุต มูลค่า 24,700 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 770,000 บาท)

 

 

- ค่าซื้อโฆษณาระหว่างงานประกาศรางวัลออสการ์ ราคา 2.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 81 ล้านบาท) ต่อโฆษณาความยาว 30 วินาที

 

- ค่าบัตรร่วมงานปาร์ตี้หลังประกาศรางวัล Vanity Fair Oscar Party ราคา 103,220 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.2 ล้านบาท) ต่อบัตร 1 คู่

 

- กระเป๋าที่ระลึก (Goodie Bag) จากงานออสการ์แจกสำหรับเซเลบผู้ร่วมงานทุกคน ปกติแล้วมีมูลค่ามากกว่า 150,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.6 ล้านบาท) สำหรับออสการ์ 2019 นี้ก็ไม่ธรรมดา มีทั้งช็อคโกแลตหรูแบรนด์ Coda Signature Cannabis, เหล้า Absinthe ฝรั่งเศส จากแบรนด์ดัง A.Junod, ครีมบำรุงผิวพรีเมี่ยม Nannette de Gaspe, บัตรทำสปามูลค่า 9,600 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3 แสนบาท) ที่ Golden Door, บัตรพักผ่อนสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ Athos Peninsula ประเทศกรีซ และบัตรทานอาหารที่ Flora Farms ประเทศเม็กซิโก

 

- ของขวัญพิเศษจากกระเป๋าที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ คือ ทริปท่องเที่ยวสุดหรูหราในประเทศแทนซาเนีย มูลค่า 40,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.2 ล้านบาท)

 

- เครื่องดื่มจัดเสิร์ฟสำหรับแขกผู้มีเกียรติตลอดทั้งงานคือ แชมเปญ Piper-Heidsieck แบรนด์หรูชั้นนำระดับโลกจากประเทศฝรั่งเศส

 

- ออสการ์ปีนี้จะไม่มีพิธีกรดำเนินรายการ เนื่องจากว่าที่พิธีกร เควิน ฮาร์ท (Kevin Hart) ขอสละสิทธิ์หลังเจอมรสุมดราม่าเหยียดเพศ LGBT นับเป็นงานออสการ์ที่ไร้พิธีกรเป็นครั้งที่ 2 ถัดจากครั้งแรกในปี 1989

 

- บ็อบ โฮป (Bob Hope) ปูชนียบุคคลแห่งวงการฮอลลีวูด เป็นผู้ทำหน้าที่พิธีกรมากที่สุดในประวัติศาสตร์ออสการ์ทั้งหมด 19 ครั้งด้วยกัน ปัจจุบัน เสียชีวิตลงแล้วในวัย 100 ปี เมื่อปี 2003 จากโรคปอดบวม

 

 

- The Favourite และ Roma เป็นภาพยนตร์ที่เข้าชิงรางวัลมากที่สุด 10 สาขาในปีนี้ ตามมาด้วย Vice และ A Star is Born ผู้เข้าชิง 8 สาขา, Black Panther ผู้เข้าชิง 7 สาขา, BlacKkKlansman ผู้เข้าชิง 6 สาขา, Bohemian Rhapsody และ Green Book ผู้เข้าชิง 5 สาขา, First Man และ Mary Poppins Returns ผู้เข้าชิง 4 สาขา, Cold War, Can You Ever Forgive Me? และ The Ballad of Buster Scruggs ผู้เข้าชิง 3 สาขา และรั้งท้ายด้วยผู้เข้าชิงรางวัล 2 สาขา ได้แก่ Isle of Dogs, Never Look Away, RBG และ Mary Queen of Scots

 

- ภาพยนตร์จาก Walt Disney Picture ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงมากที่สุด 16 สาขา ตามมาด้วย Fox Searchlight Pictures และ Netflix ทั้งหมด 15 สาขา, Annapurna Pictures 11 สาขา, Warner Bros. Pictures และ Universal Picture 9 สาขา, Focus Features 8 สาขา, 20th Century Fox 5 สาขา, Magnolia Pictures และ Sony Pictures Classics 4 สาขา ปิดท้ายด้วย Amazon Studios ผู้เข้าชิงทั้งหมด 3 สาขา

 

- Black Panther เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่และเป็นภาพยนตร์จากค่ายมาร์เวลเรื่องแรก ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) รวมถึงเป็นภาพยนตร์ที่ทำเงินได้มากที่สุดในบรรดาผู้เข้าชิงเรื่องอื่น ๆ อีกด้วย

 

- Roma เป็นภาพยนตร์จาก Netflix เรื่องแรก ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาภาพยนตร์ยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) 

 

- มาเฮอร์ชาลา อาลี (Mahershala Ali) หรือ มาเฮอร์ชาลฮาชเบซ กิลเมอร์ (Mahershalalhashbaz Gilmore) ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง Green Book ซึ่งเขาเคยได้รับรางวัลสาขาดังกล่าวมาแล้วในปี 2017 จากภาพยนตร์เรื่อง Moonlight

 

- แซม เอลเลียต (Sam Elliott) โลดแล่นในวงการบันเทิงมาแล้วมากกว่า 50 ปี แต่เพิ่งเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรก ในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Actor in Supporting Role) จากภาพยนตร์ A Star is Born 

 

- ในบรรดาผู้เข้าชิงสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor in Leading Role) รามี่ มาเลค (Rami Malek) เป็นผู้เข้าชิงหน้าใหม่เพียงคนเดียว ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นครั้งแรก

 

 

 

- A Star is Born เข้าชิงรางวัลมากถึง 8 สาขา แต่ แบรดลีย์ คูเปอร์ (Bradley Cooper) กลับพลาดรางวัลสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม ซึ่งเจ้าตัวนั้นออกมายอมรับด้วยว่ารู้สึกเสียดายมากจริง ๆ

 

- ยาลิตซา อปาริซิโอ (Yalitza Aparicio) รับบทนำในภาพยนตร์ Roma เป็นเรื่องแรกในชีวิต และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 2019 สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress in a Leading Role) 

 

- สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Vice นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ เอมี่ อดัมส์ (Amy Adams) และคริสเตียน เบล (Christian Bale) ได้ร่วมงานกัน ถัดจากภาพยนตร์เรื่อง The Fighter (2010) และ American Hustle (2013) ซึ่งทั้งสองก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลพร้อมกันอีกเช่นเคย

 

- จาก 87 ประเทศทั่วโลก มี 5 ประเทศเท่านั้นที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best Foreign Language Film)  คือ Capernaum (ประเทศเลบานอน), Cold War (ประเทศโปแลนด์), Never Look Away (ประเทศเยอรมัน), Roma (ประเทศเม็กซิโก) และ Shoplifters (ประเทศญี่ปุ่น)

 

- ไม่มีผู้กำกับหญิงคนไหนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director) ในปีนี้ คงไว้ด้วยสถิติเดิมคือ 5 คน ได้แก่ ลิน่า เวิร์ทมูลเลอร์ (Lina Wertmüller) จากภาพยนตร์เรื่อง Seven Beauties ปี 1977, เจน แคมเปียน (Jane Campion) จากภาพยนตร์เรื่อง The Piano ปี 1994, โซเฟีย คอปโพลา (Sofia Coppola) จากภาพยนตร์เรื่อง Lost in Translation ปี 2004, แคธริน บิเกโลว์ (Kathryn Bigelow) จากภาพยนตร์เรื่อง The Hurt Locker ปี 2010 และเกรต้า เกอร์วิก (Greta Gerwig) จากภาพยนตร์เรื่อง Lady Bird ปี 2018

 

 

ดูรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลทั้งหมดได้ที่ (คลิกเลย)
 

“Academy Awards ครั้งที่ 91 ประจำปี2019”
ประกาศผลและถ่ายทอดสดในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2019 (ตามเวลาสหรัฐฯ)


ที่มา: chicago.suntimes.com, latimes.com, ibtimes.com, hollywoodreporter.com, townandcountrymag.com, bbc.com

: เกร็ดหนังดี, ออสการ์, Oscars, Black Panther, A Star Is Born, Bohemian Rhapsody, The Favourite, Roma, Green Book, Vice

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • Poor Things กวาด 4 รางวัลในงานออสการ์ปีนี้ รวมรางวัลนำหญิง "เอ็มมา สโตน"
  • สรุปรายชื่อผู้ชนะรางวัลออสการ์ครั้งที่ 96 ประจำปี 2024
  • "Anatomy of a Fall เขาบอกว่าเธอฆ่า" ภาพยนตร์แห่งปีชนะรางวัล "บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม" บนเวทีออสการ์ปีนี้
  • The Zone of Interest คว้าออสการ์ 2​ สาขา "ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม" และ "ออกแบบเสียงยอดเยี่ยม"
  • กวาดอีก 3 BAFTA "The Zone of Interest วิมานนาซี" ตอกย้ำโดนใจนักวิจารณ์ทุก ZONE!
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :
     
     
     
     

    ความคิดเห็นที่ 1  จากคุณ mdigital     14 ม.ค. 2567 00:08 น.


     1