ไมเคิล ชาเวซ (Michael Chaves) การันตีว่าภาคต่อ The Conjuring: The Devil Made Me Do It จะเป็นภาพยนตร์ในแฟรนไชส์เดอะ คอนเจอริ่งที่มืดมนที่สุดเท่าที่เคยมีมา แถมยังไม่เน้นการใส่สีสันเพื่อความบันเทิง เพื่อการตลาด หรือเล่าเรื่องอย่างเว่อร์วังมากเกินไป แต่เน้นพาผู้ชมไปยังบรรยากาศที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยอิงจากเรื่องราวของแฟ้มคดีจริงมากที่สุด

"ตอนผมได้บทหนังมา ผมก็เริ่มอ่านตัวแฟ้มคดีจริง แล้วพบว่าที่มันเป็นคดีที่แตกต่างออกไปจากหนังคอนเจอริ่งเรื่องอื่นมาก แน่นอนว่ามีคำขายหนังว่า 'นี่จะเป็นหนังคอนเจอริ่งที่ดาร์กที่สุดเท่าที่เคยมีมา' แต่จากอะไรหลายอย่าง ๆ ผมบอกได้ว่านี่มันก็คือหนังคอนเจอริ่งที่ดาร์กที่สุดจริง ๆ"

ชาเวซ กล่าวเพิ่มเติมว่า "มันมีเหยื่อตัวจริง มันมีคนที่ถูกฆาตกรรมจริง และเราเล่าเรื่องราวของฆาตกรคนนั้น เรากำลังเล่าเรื่องราวของชายอีกคน แล้วจู่ ๆ ผมก็ถามตัวเองที่โตมากับคาทอลิกว่า เราเชื่อเรื่องอะไร แล้วมุมมองที่เรามีต่อหนังเรื่องนี้จะเป็นยังไงกัน? นี่คือคำถามที่ผมกำลังต่อสู้กับมันอยู่ครับ ผมคิดว่าเรากำลังต่อสู้กับความศรัทธาของตัวเอง มันคือเรื่องราวของวอร์เรน และเป็นเรื่องราวของอาร์นี่ด้วยเช่นกัน"

The Conjuring: The Devil Made Me Do It เขียนบทภาพยนตร์โดย เดวิด เลสลี จอห์นสัน-แม็คโกลด์ริค (David Leslie Johnson-McGoldrick) จากโครงเรื่องที่เขาร่วมร่างกับ เจมส์ วาน รับบทโดยทีมนักแสดงเดิมและนักแสดงหน้าใหม่ อาทิ เวร่า ฟาร์มิกา (Vera Farmiga) และ แพทริค วิลสัน (Patrick Wilson) ผู้กลับมารับบทสองสามี-ภรรยา เอ๊ด และ ลอร์เรน วอร์เรน ร่วมกับ รัวรี่ โอคอนเนอร์ (Ruairi O'Connor), ซาราห์ แคทเธอรีน ฮุค (Sarah Catherine Hook), จูเลียน ฮิลเลียด (Julian Hilliard), ชาร์ลีน อาโมเอีย (Charlene Amoia), พอล วิลสัน (Paul Wilson), จอห์น โนเบิล (John Noble), สเตอร์ลิง เจรินส์ (Sterling Jerins) และ แชนน่อน คุ๊ก (Shannon Kook)

ที่มา: Movieweb.com | Screenrant.com