จอมเวทย์มหากาฬในมัลติเวิร์สมหาภัย ได้ปลดล็อกพหุจักรวาลใน MCU ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคยมีมา เดินทางไปสู่มิติที่มิอาจหยั่งรู้ได้กับ ด็อกเตอร์สเตรนจ์ กับสหายผู้มีพลังพิเศษทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ที่จะมาร่วมเดินทางไปในพหุจักรวาลที่แสนบิดเบี้ยวและอันตราย เพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูลึกลับในครั้งนี้

เป็นหนังที่ทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์มากที่สุดในจักรวาลมาร์เวล เหตุผลแรกเพราะหยิบเอาผู้สร้างหนังสยองขวัญอย่าง แซม ไรมี่ มากำกับฯ ทำให้ Doctor Strange 2 มีโทนที่แปลกไปจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ผ่านมา ทั้งความสยอง ฉากตุ้งแช่ การเล่นมุมกล้องที่เข้าถึงกึ๋นความโคตรดาร์กของตัวละครทั้งด็อกเตอร์สเตรนจ์ ทั้งแวนด้า ยิ่งถ้าใครได้ดูซีรีส์ WandaVision และ What If…? มาก่อนจะยิ่งเข้าถึงปมในใจของทั้งคู่มากยิ่งขึ้น ซึ่งจุดนี้มาร์เวลยังคงทำได้ดีในการเชื่อมเรื่องราวของแต่ละผลงานเข้าได้กันอย่างกลมกล่อมลงตัว แถมยังเก็บรายละเอียดตอกย้ำให้ทุกสิ่งอย่างเข้มข้นถึงใจมากขึ้นไปอีก

สิ่งที่โดดเด่นมากในเรื่องนี้คือการแสดงของเบเนดิคต์ คัมเบอร์แบตช์ และเอลิซาเบธ โอลเซ่น รวมถึงการเขียนบทภาพยนตร์ออกมาทำให้สองตัวละครนี้ดูมีมิติมาก ทั้งด้านอารมณ์ การตัดสินใจ และเรื่องราวชีวิตของพวกเขา แวนด้าในร่างสการ์เล็ต วิทช์ก็คือน่ากลัวน่าเกรงขามสมกับเป็นซูเปอร์ฮีโร่เจ้าของพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวาลมาร์เวล บางฉากคือรู้สึกทึ่งมากจริง ๆ ว่านี่หรอแวนด้า แม็กซิมอฟ อเวนเจอร์สคนสวยสุดอ่อนโยนเวลาอยู่กับวิชั่นที่เคยเห็น ส่วนด็อกเตอร์สเตรนจ์จากหลากหลายมัลติเวิร์ส เบเนดิคต์ก็เอาอยู่ทุกคาแรคเตอร์ไม่ว่าจะร้าย จะดาร์ก หรือคอมเมดี้ขนาดไหน ในส่วนของอเมริกา ชาเวซก็ทำออกมาได้ดีในเรื่องของการปูพื้นหลัง บทของน้องก็คือกำลังดีไม่แย่งซีน ไม่ขาดไม่เกิน และชัดเจนว่าเป็นตัวละครที่สำคัญที่สุดในการเดินเรื่องครั้งนี้ แล้วใด ๆ ก็คือเรเชล แม็คอดัมส์สวยมากกกกกกกก สวยแบบเคมีเข้ากับความหล่อเหลาคับจอของเบเนดิคต์จริง ๆ

อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบมาก ๆ คือการที่หนังตั้งคำถามในมุมมองความเป็นมนุษย์ของซูเปอร์ฮีโร่มากยิ่งขึ้นว่า ทำไมลึก ๆ แล้วใจของพวกเขาไม่ได้มีความสุขหรือได้รับการเติมเต็มเลย แม้ว่าจะสามารถกอบกู้โลกและช่วยชีวิตผู้คนมากมายเอาไว้ได้ ประเด็นนี้ทำให้เรารู้สึกอินไปกับความสัมพันธ์ของสตีเฟ่นและคริสตินยิ่งขึ้นไปอีก แถมยังทำให้หวนคิดไปถึงความรักของกัปตันอเมริกากับเป็กกี้เหมือนกันว่าต่อให้มีพลังวิเศษ มีวีรกรรมเป็นที่ยกย่องของคนทั่วโลกขนาดไหน ซูเปอรฮีโร่ก็ต้องการความรักความอบอุ่นจากคนรักและครอบครัวเหมือนคนธรรมดาทั่วไปอยู่ดี พอดูจบก็มานั่งถามตัวเองเหมือนกันว่าแล้วเราตอนนี้ล่ะมีความสุขดีรึยัง?

เคาะคะแนนไว้ที่ 9.5 หักนิดหน่อยตรงที่รู้สึกว่าหนังทำได้กระชับมากกว่านี้ เซอร์ไพรส์ที่คาดหวังก็คือเซอร์ไพรส์จริงแต่มาแบบทำให้รู้สึกเหมือนยำรวมมาเพื่อเซอร์วิสแฟนล้วน ๆ ไม่ได้มีผลกับเส้นเรื่อง แอบรู้สึกขัดใจกับตุ้งแช่บางช่วงที่จังหวะค่อนข้างยัดเยียดไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วแฟนของหมอแปลกไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน