ข่าว > ข่าวหนังทั้งหมด > รีวิวหนังวันวาน

เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย - Seasons Change

7 ก.พ. 2556 00:00 น. | เปิดอ่าน 1390 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 


สวัสดีครับ เพื่อนที่รัก นักเสพย์ความเอนเตอร์เทนเม้นท์ ผ่านสื่อ อินเตอร์เน็ท กลับมาพบกันอีกครั้งนะครับ เมื่อมีภาพยนตร์ที่น่าสนใจ “ นัวฟิล์ม ” ก็จะนำมาวิจารณ์ให้เหล่าเพื่อน ๆ ใน www.nangdee.com ได้อ่านกันนะครับ

ครับ วันนี้จะขอติดกระแส ของวันแห่งความรักกันนะครับ เพราะแหมย้อนนึกถึงของเรื่องราวความรักของ ภาพยนตร์นี้มันแรงจริง ๆ ไปดูวันแรก ๆ ไม่ทันวัยสรุ่น เลยต้องรอคนซา ๆ ค่อยไปดู และ เหมือนเคย ผมคงมาเล่าถึงความรู้สึก และ แง่มุม ที่ผมมองเห็นจาก ภาพยนตร์ มากกว่าจะมาเล่าเรื่อง หรือวิจารณ์ เพราะคิดว่าส่วนใหญ่ น่าจะได้ไปดูกันแล้ว และสำหรับภาพยนตร์เรื่อง “ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ” หรือ SEASON CHANGE ซึ่ง เป็นภาพยนตร์ที่ผมไม่อยากวิจารณ์ถึง เพราะโดยปกติแล้ว เป็นคนไม่ชอบชมภาพยนตร์ไทย เท่าใดนัก อีกทั้งไม่ชอบ วิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจาก มันใกล้ตัวมาก อาจโดนด่า โดนเกลียดขี้หน้าเอาได้ เพราะไม่ได้ มีคุณวุฒิ อะไรที่จะไปวิจารณ์เค้า นะครับ มาเข้าเรื่องดีกว่า


“เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย” เหมือนเดิม ๆ กับภาพยนตร์ไทย ซึ่ง เป็นภาพยนตร์ที่ผมรู้สึกเฉย ๆ มากครับ เมื่อได้ดูตัวอย่างจากโรงภาพยนตร์ หรือ ใบปิด และโฆษณา ผมรู้สึกว่า ธรรมดามาก ๆ ดาราก็ วัยรุ่นใหม่ ๆ อีกทั้งยังเป็นภาพยนตร์ ที่ดูแล้วจะเหมือนความรักความสดใสในวันมัธยม รุ่น ขาสั้นคอซอง อย่างนั้น ซึ่งผมเลยวัยนั้นมานานแล้วพอสมควร หรือ อาจนานเกินไปจนทำให้รู้สึกเช่นนั้นก็เป็นได้ แต่จาก การที่น้อง ๆ ในที่ทำงานพากันอยากดู และ เมื่อไปดูมาแล้วก็พากันโจทก์ขานกันว่า “มันดี น่ารัก และ ได้ใจ ไปดูดิพี่” ก็ เอาล่ะซิ เล่นยิงสปอตโฆษณากันทุกวัน ไม่ดูไม่ได้แล้ว ไปดูดีกว่า เดี๋ยวจะหาว่าตกเทรนด์

เหมือนเดิมนะครับ ผมจะไม่เล่าเรื่อง เดี๋ยวคนที่ไม่ได้ดู จะมาด่าพ่อเอา เอาเป็นว่าขออนุญาต เล่าเฉพาะตอนที่ประทับใจ และให้แง่คิด มากกว่าความบันเทิง สักนิดหน่อยคงไม่ว่ากันนะครับ


ภาพยนตร์
ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นแนว ความรัก ใส ๆ ครับ อาจจะถือได้ว่า อาจจะไม่ใช่ความรักซะทีเดียว แต่เป็นการริเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ริเริ่มที่จะ คบหาใครสักคนที่จะ พัฒนาไปสู่ความรัก เท่านั้นเอง ในยุคผม ยุคนั้นเค้าเรียกกันว่า วิธีการ “สีหญิง” มันจึงเป็นเรื่องของวิธีการ และความ กล้า ไม่กล้า ตัดสินใจอะไรซะมากกว่า เรื่อง เกิดจาก ป้อม หนุ่มที่พ่อแม่ใฝ่ฝันอยากให้เรียนสายวิทย์ เพื่อ สอบเอ็นทรานซ์เป็นหมอ แต่เค้าเองกลับ ตัดสินใจ ไปเรียนสายศิลป์เอกดนตรี เพียงเพราะต้องการ ไปจีบ สาวคนหนึ่งที่ไปเรียนในสายดนตรี แล้วเรื่องราวในรั้ว มัธยม ความสนุกสนาน และ ความซื่อ ความกล้า ความกลัว จึงเข้ามามีผลต่อใจเค้าในทุก ๆ เรื่อง ในการดำเนินชีวิตไปแต่ละวันทั้งที่บ้าน และในโรงเรียน อีกทั้งเมื่อมี สาวอีกคน มาแอบชอบเค้า แต่เค้าก็ไม่รู้ จึงเกิดเป็นเรื่องสนุก ๆ บวกความเฮฮาประทับใจ เกิดขึ้นมา

ผมชอบมากตรงผู้สร้าง เล่นกับจังหวะ คำว่าจังหวะของผมหมายถึง ทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่าง ที่มันได้ที่ของมัน พอเหมาะพอเจอะ มันจะเป็นจังหวะของมันเอง อย่างเช่น ในเรื่องนี้ ผู้สร้าง ผู้กำกับเล่นกับจังหวะ ไม่ว่าจะเป็น จังหวะดนตรี ซึ่งเน้นมาก จังหวะของชีวิตของคนสามคน กับเพื่อนอีกสองกลุ่ม จังหวะ ในการตัดสินใจทุกสิ่งทุกอย่าง ของพระเอก ทุกอย่าง มีจังหวะไปหมด รวมไปถึงผู้กำกับเองที่สามารถ ให้จังหวะในภาพยนตร์ได้เหมาะเจาะลงตัว เนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรใหม่ไปกว่า เพื่อนสนิทหรือ แฟนฉัน ยังคงเป็นการเล่นกับ ความรัก ความสนุกสนานในวัยเรียน ซึ่งทำให้คนที่อยู่ในวัยนี้ ได้มีความสุขได้หัวเราะ ได้ประทับใจ หรือ คนที่เลยวัยนี้ไปแล้ว มาดูก็จะกลับไปนึกถึงตัวเอง ในวันนั้นเช่นกัน แต่ผู้สร้าง มีความเฉียบคมในการสรรหามุมมอง การดำเนินเรื่อง การหักมุขตลกเล็ก ๆ น้อย ๆ มีลูกเล่นนิด ๆ หน่อย ๆ มาเบรกอารมณ์ได้ดี ไม่เกินเลยจนเกินไป ภาพยนตร์ดูธรรมดา หากแต่ ตัวละครครับ มีความโดดเด่น และ มีเสน่ห์อย่างล้นเหลือทุก ๆ ตัวละคร เรียกว่า สามารถดึงจุดเด่นออกมาจากดาราได้สมบูรณ์ ทุกคนมีความเท่าเทียมกันในการร่วมในภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้แต่ตัวประกอบก็ต้องชมเชย


ดารา
คงเป็นดารารุ่นใหม่ ๆ ที่คงแจ้งเกิดได้ไม่ยาก เพราะตัวพระเอก “ป้อม” ก็ไม่ได้หล่อมากมาย แต่ความมีเสน่ห์ ทำให้เค้าดูเด่นได้ไม่ยาก แต่ยังดูแข็ง ๆ กับการเล่นภาพยนตร์เรื่องแรก กับอีกสองสาวนางเอก “ดาว” นั้นสวยเด่น ถึงบทน้อยกว่า แต่ก็ไม่ได้ด้อยกว่าในเรื่องของเสน่ห์ กับ “อ้อม” สาว ใส ขี้เล่น แต่ดูจริงใจ น่ารักโดนใจไปอีกแบบ และ ทั้งสามคนนี้ เธอเล่นได้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ในส่วนดาราประกอบคนอื่น ๆ ก็เด่นไม่แพ้กันทุกคน แต่คนที่ผมประทับใจมากที่สุดเห็นจะเป็น อาจารย์สอนเครื่องเคาะชาวญี่ปุ่น ของพระเอกนี่แหล่ะครับสุด ๆ เล่นดีมาก ๆ น่ารักมาก ๆ นี่ยังไม่รวมไปถึง ดาราจำเป็น อย่าง คุณยงยุทธ ทองกองทุน และ คุณอัสนี โชติกุล คุณบอย โกศิยพงศ์ ที่มาร่วมเข้าฉากเป็นดาราจำเป็น ที่ทำได้อย่างไม่น่าเกลียด รู้จักการวางจังหวะในการเข้ามาแจมบทบาทเล็ก ๆ โดยรวม ๆ ถือว่า เยี่ยมครับ
 



ความประทับใจ
จากภาพยนตร์เรื่องนี้ คงหนีไม่พ้น เนื้อเรื่องที่เข้าใจเขียน และ สามารถนำเสนอออกมาได้โดนใจมาก ๆ ผมผ่านชีวิตช่วงนี้มานานมากแล้ว ยังรู้สึกดี ๆ กับชีวิตในยุคนั้นเพราะผมเคยพูดกับเพื่อน ๆ หรือ รุ่นน้อง หรือ คนที่รู้จักเสมอเวลาคุยกันว่า ชีวิตในวัย มัธยม เป็นชีวิตที่หาไม่ได้อีกแล้ว มันมีความสนุกสนาน ความรัก ความบู๊ดุเดือด อย่างที่ไม่สามารถหาได้ในชีวิตช่วงอื่นเลย เพราะ ช่วงเข้า อุดมศึกษา นั้นก็สนุก แต่น้อยกว่าเพราะเราต้องรับผิดชอบมากมาย เพื่อเตรียมตัวเป็นผู้ใหญ่ แต่ในวัยมัธยม ยังไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก ใช้ชีวิตอยู่กับ เพื่อน และ ความสนุกสนาน อย่างสุด ๆ แล้ว ในเรื่องนี้ก็มีให้เห็นเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการ สีหญิง เล่นบอลโกล์หนู การเล่นดนตรี การตั้งวงสตริง มีอยู่เกือบครบ จะมีขาดอยู่บ้างก็คือ ไม่ได้นำเสนอในเรื่อง หฤห่าม อีกหลาย ๆ เรื่องของเด็กผู้ชาย แต่ก็ดีแล้วครับ เพราะ ภาพยนตร์เลือกนำเสนอในแง่มุมความสดใส ของตัวเดินเรื่อง และ ความชอบยังไม่ใช่ความรัก จึงมีการเปลี่ยนแปลงไปได้ เหมือน ฤดูกาล นั่นเอง แต่ก็มีหลาย ๆ อย่างในภาพยนตร์เหมือนกันนะครับ

ที่ดูขัดใจ ๆ ยังไงไม่รู้ ไม่อยากเล่าเลยครับ เดี๋ยวคนยังไม่ได้ดูจะค้อนเอา แต่เอาซักเรื่องสองเรื่องนะ เช่น ตอนซ้อมจะแสดงคอนเสิร์ตกันน่ะ ไม่ยักกับมี คอรัส สักคน แต่ตอนแสดงคอนเสิร์ต คอรัส พรึบเลยครับ หรือ ตอนจบน่ะ ไอ้ มาโนช ได้ไปเรียนต่อด้วยทุน ที่ ฮังการี่ ได้อย่างไร ไร้เหตุผลสิ้นดี เอาน่า คุณอาจจะว่า คิดมากน่าคุณอสูรชาด มันเป็นภาพยนตร์นะ ก็ผมบอกแล้วไงมันดูขัด ๆ ไม่ขัด ก็ไม่ใช่อสูรชาด ซิครับ


และสุดท้าย ในความคิดของผม ภาพยนตร์ ให้แง่คิดแก่เราพอสมควร อาทิ “ คนเรามักจะมองอะไรไกลตัวเสมอ ” อย่างเช่น ที่ ดาว ไม่เคยเห็นหรือรู้มาก่อนเลยว่า ป้อม ชอบ และเคยอยู่โรงเรียนเดียวกันตอนมัธยมต้น เพราะดาวเป็นคน มองไปข้างหน้า และ มองสูง คือ ทะเยอทะยานเสมอ เพื่อความสำเร็จ ป้อม ไม่เคยเห็นว่า อ้อม ทำดีกับเขาเพราะ อ้อม แอบชอบเค้าอยู่ จึงไปมองแต่ดาว หรือ อ้อม ก็ไม่เคยมองเห็นเลยว่า ตัวเอง เก่งในด้านทฤษฎี ดนตรี แต่กลับพยายามจะไปเล่นเครื่องดนตรี ในการปฏิบัติมากกว่า แต่จริง ๆ แล้ว เธอ กลับ เรียบเรียงเสียงประสานได้เก่งกว่าทุกคน เอาละ แนะนำกันพอเบาะ ๆ นะครับ ยังมีแง่คิดอีกเยอะ ลองไปดูแล้ว มองนะครับว่าได้อะไร แล้วนำมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะครับ จะรอ


อีกประการ ผมอยากจะขอชมเชยผู้กำกับทีมนี้ที่ช่วยกันสร้าง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ดีนะครับ เพราะรู้สึกเป็นทีมเก่า ๆ จาก แฟนฉัน และ เพื่อนสนิท คอยช่วยเหลือกัน ผมว่าเค้าเก่งในการเล่าเรื่องครับ แต่ผมอยากเห็นเค้าเก่งในภาพยนตร์แนวอื่น ๆ อีก ถ้าเป็นไปได้ หาก แหวกตลาด ทำภาพยนตร์แนวที่ไม่เคยทำออกมาบ้าง จะดีใจมาก จะคอยชมครับ


ท้ายจริง ๆ ความคุ้มค่า ภาพยนตร์เรื่อง “ เพื่อนสนิท “ ผมเคยให้ 9.8 คะแนน ครับ แต่เรื่องนี้ ผมขอให้แค่ 9.5 ละกัน เพราะชอบเพื่อนสนิทมากกว่าครับ


แล้วคราวหน้า เมื่อมีภาพยนตร์เรื่องที่น่าสนใจ “ นัวฟิล์ม“ จะ กลับ เช่นเคยครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ เข้ามาอ่านแล้ว โพสท์เข้ามา บอกความคิดเห็นกันบ้างนะครับ ว่า ชอบ หรือไม่ชอบ อย่างไร สวัสดีครับ



"นัวฟิล์ม "

: Seasons Change

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • 10 หนังไทยแอบรักเพื่อน ที่คนแอบรักไม่ควรพลาด
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :
     
     
     
     

    ความคิดเห็นที่ 1  จากคุณ mdigital     13 ม.ค. 2567 23:14 น.


     1