ข่าว > ข่าวดาราทั้งหมด > ข่าวดาราเทศ

"โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์" หวนคืนสู่บท "ไอรอน แมน" ในภาพยนตร์มาร์เวล "Captain America: Civil War"

26 เม.ย. 2559 13:49 น. | เปิดอ่าน 1384 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

ความสัมพันธ์ระหว่าง สตีฟ โรเจอร์ส และ โทนี่ สตาร์ค เกิดความร้าวฉานขึ้นในภาพยนตร์เรื่อง Captain America: Civil War ในตอนที่ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ก้าวเข้าสู่กองถ่ายของภาพยนตร์มาร์เวลเรื่อง Captain America: Civil War ในฐานะ โทนี่ สตาร์ค/ไอรอน แมน เขารู้สึกว่ามันเป็นการหวนคืนสู่ความรู้สึกที่ต่อเนื่อง ของอิสรภาพและความร่วมแรงร่วมใจกัน ที่เขาชื่นชอบนับตั้งแต่เขาได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกภาพยนตร์มาร์เวลในครั้งแรก

เจ้าของบทบาทสำคัญนี้ มีเรื่องน่าตื่นเต้นมากมายที่รอ โทนี่ สตาร์ค อยู่ ตั้งแต่ตอนเปิดเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ ความบาดหมางเกิดขึ้นจากการที่สตีฟ โรเจอร์สและโทนี่ สตาร์ค เลือกยืนอยู่คนละฝ่ายของสนธิสัญญาโซโคเวีย ซึ่งเสนอให้รัฐบาลเข้าควบคุมพวกอเวนเจอร์ส น่าสนใจที่พวกเขากลับเลือกในฝ่ายที่ตรงข้ามกับที่ผู้ชมคาดคิด นั่นคือสตีฟต่อต้านการเข้าแทรกแซงของรัฐบาล ในขณะที่โทนี่กลับสนับสนุนเรื่องนี้ แต่ดาวนีย์ก็ยอมรับการหักมุมนี้อย่างสบายๆ

"ตอนนี้ มันกลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดมหึมาแล้ว แต่ที่สุดแล้วในตอนที่มีแค่ผมรับบท โทนี่ สตาร์ค เพื่อที่ผมจะถ่ายทอดความเป็นเขาออกมาได้จริงๆ ผมก็ยังคงสนุกอยู่ดีครับ" "Civil War เป็นไอเดียที่ชาญฉลาดและเซ็กซี่สุดๆ ของมาร์เวล คุณไม่อยากจะเห็นตัวละครสองตัวนี้เกิดรอยบาดหมางในความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาหรอกครับเพราะคุณรู้ว่ามันจะย่ำแย่ได้แค่ไหน มันก็เลยทำให้คุณได้เล่นกับความร้าวฉานประมาณหนึ่ง ผมชื่นชอบไอเดียที่ว่าคุณจะฟื้นตัวจากเรื่องแบบนั้นยังไง จะต้องเกิดอะไรขึ้นถึงจะมีความรู้สึกเหมือนๆ จะคืนดีกันได้หลังจากที่เกิดความบาดหมางแบบที่เกิดขึ้นระหว่างสตีฟและโทนี่น่ะครับ

 

 

ความคิดของผมในการรับบท โทนี่ สตาร์ค คือไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาก็จะไม่แปลกใจกับมันครับ เขาคิดว่าที่เขาทำไปมันมีเหตุผล ซึ่งเขาอาจจะคิดถูกก็ได้ ถ้าเขาไม่ถูก ตอนหลังเขาก็จะรู้เอง แต่มันก็มีบางช่วงเวลาที่คุณจะเห็นว่าพวกเขารู้สึกขัดแย้งกับสิ่งที่พวกเขากำลังจะทำครับ พวกเขาบอกว่าสิ่งต่างๆจะเกิดขึ้นแบบคูณสาม ตอนนี้เป็ปเปอร์ก็เหมือนๆกับจะงอนเขาอยู่ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเลยกำลังต้องการการเยียวยา เขาได้เผชิญหน้ากับคนแปลกหน้าที่เขาหยั่งเชิงไม่ได้แบบตัวต่อตัว แล้วก็เกิดเรื่องของสนธิสัญญาโซโคเวีย และเขาก็จำใจต้องจับมือกับแธดดิอุส รอส

มันเป็นเรื่องราวที่เจ๋งจริงๆ มันมีองค์ประกอบที่แตกต่างกันมากมายผสมปนเปอยู่ในเรื่องนี้ครับ โทนี่ได้เผชิญหน้ากับชาวเมืองคนหนึ่งที่มายืนตรงหน้าเขา และทำให้ความคิดของเขาวนเวียนอยู่แต่กับเรื่องความเสียหายที่เกิดจากฝีมือของพวกอเวนเจอร์ส โทนี่มองย้อนกลับไป เขาเริ่มได้สติและทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง นั่นคือการเลือกมุมมองแบบคนหัวเก่า ซึ่งก็ไม่มีคนอื่นที่ดีไปกว่าเขาอีกแล้วที่จะทำแบบนั้นเพราะครั้งที่แล้ว เขาได้เห็นจาร์วิสเปลี่ยนกลายเป็นคนตัวม่วงที่เป็นจักรกลประดิษฐ์ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง และดูเหมือนจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง เขาสามารถยกค้อนของธอร์ได้ก็จริง แต่เขาก็เพี้ยนๆ เขาไม่ใช่จาร์วิสอีกต่อไปแล้ว โทนี่ไม่เคยตั้งใจที่จะให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เขามองเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา และในความคิดของเขา เขาทำถูกแล้วที่สนับสนุนสนธิสัญญาโซโคเวียครับมีการปะทะคารมกันหลายครั้ง แต่ผมคิดว่าตามความคิดของโทนี่ ความทรงจำที่พ่อเขามีต่อสตีฟต่างจากความจริง และเพื่อนซี้ของเขาเป็นคนที่สร้างปัญหาทั้งหมดนี่ นอกจากนั้นที่เขาทำให้ทุกอย่างยุ่งยากก็เพราะเขามองว่าเขาถูกต้อง และเขาก็ไม่ได้ทำตัวในแบบที่โทนี่คิดว่าถูกต้องซะทีเดียว เขาเก็บงำความลับเอาไว้ เขากำลังทำอะไรบางอย่างด้วยตัวเองและเขาก็มีความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับผู้ชายคนหนึ่งที่มีปัญหาและอันตรายมากๆ ซะด้วย ดังนั้นสำหรับผมที่เป็นพ่อวัยกลางคน ที่มีลูกๆ ที่อยู่ในช่วงอายุต่างๆ กันไป มันเหมือนกับว่าโทนี่อยู่ในสถานะของพ่อ และเขาก็รู้สึกเหมือนว่าสตีฟเป็นผู้ใหญ่ที่ไร้ความรับผิดชอบน่ะครับ"

 

 

แม้ว่าทีมกัปตันจะมีสมาชิกของอเวนเจอร์สที่มีฝีไม้ลายมือไม่น้อย แต่ทีมไอรอน แมน ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันอย่างที่ดาวนีย์พูดไว้อย่างภาคภูมิใจว่า "ผมดีใจสุดๆ ที่ได้แบล็ค วิโดว์ มาตั้งแต่ 'Iron Man II' นาตาชา หรือแบล็ค วิโดว์ ไม่เคยอยู่กับโทนี่ โดยที่คนใดคนหนึ่งไม่พยายามจะหลอกลวงอีกฝ่ายหนึ่งเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจาก 'Captain America: The Winter Soldier' และด้วยความที่เธอกับกัปตันสนิทกันมาก ผมก็ไม่คาดคิดเลยว่ารูปการณ์จะออกมาเป็นแบบนี้ มันเพอร์เฟ็กต์เลย การยื้อตัวเธอมาจาก นิค ฟิวรี่ ได้ก็เป็นไอเดียที่เจ๋งและชาญฉลาดจริงๆ เห็นได้ชัดว่าเราไม่อยากจะอยู่ในโลกที่โรดี้และโทนี่ สตาร์คไม่ได้เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม พวกเขาผ่านอะไรต่างๆ มาด้วยกันมากมายจนมันคงเป็นการสร้างรอยร้าวมากเกินไปถ้าพวกเขาจะต้องแยกทางกันเดิม แล้วทีมของโทนี่ก็ระดมสมัครพรรคพวกด้วยเหมือนกันครับ"

"แต่แม้ว่า สตีฟ โรเจอร์ส และ โทนี่ สตาร์ค จะไม่ได้รู้สึกรักใคร่กันซักเท่าไหร่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ความรู้สึกที่ว่าก็ไม่ได้ส่งผลต่อชีวิตจริงของพวกเราเลยครับ ผมว่าคริสเป็นเหมือน สเปนเซอร์ เทรซี่ แห่งโลกมาร์เวลครับ เขายืนอยู่ตรงนั้น พูดความจริง และโชว์ฝีไม้ลายมือในแบบที่คุณเชื่อได้จริงๆ ความฟิตเขาก็สุดยอด กัปตัน อเมริกาเป็นตัวละครที่เปิดตัวได้ยากที่สุด แต่คริสทำได้ทั้งในภาคแรก ภาคสอง ในอเวนเจอร์สทั้งสองภาค และเขาก็กำลังทำมันอีกครั้งหนึ่ง ผมคิดว่าเขาไม่รู้สึกทำตัวไม่ถูกหรอกครับ แต่เขาแปลกใจและอึ้งมากกว่ากับความรักมากมายที่เขาได้รับ ครั้งนี้คนที่เคยปรากฏตัวในโลกภาพยนตร์ของมาร์เวลมาก่อน จะได้กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในรูปแบบที่สำคัญกว่าเดิมครับ วิลเลียม เฮิร์ท ก็กลับมารับบท แธดดิอุส รอส อีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความยินดีให้กับดาวนีย์มาก ถ้าคุณมีวิลเลียม เฮิร์ท มันก็เมคเซนส์ที่จะใช้เขาและผมคิดว่าเขาสร้างบทรอสขึ้นมาเป็นตัวละครที่เจ๋งจริงๆ มันตลกเพราะตัวโทนี่ก็ทำตัวกับเขาต่างจากเดิมในแบบที่พิลึกหน่อยๆ แต่ผมชอบเขาครับ ผมสามารถนั่งมองเขาทำงาน หรือใช้เวลาอยู่กับเขาแล้วพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการนั่งสมาธิหรือประวัติศาสตร์ก็ได้ ผมมองตัวเองว่าแนวทางการก้าวไปข้างหน้าที่ดีที่สุดของผมจะไม่ต่างจากเขาเพราะเขายังคงหาความรู้ใส่ตัวเองอยู่เสมอๆ คุณจะเห็นได้ว่าเขาเป็นคนแบบคนรุ่นเก่า แต่เขาก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันในแบบที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักแสดงคนอื่นๆ ด้วยครับ"

 

 

การร่วมงานกับ ผู้กำกับแอนโธนี่ และโจ รุสโซเป็นครั้งแรกเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับดาวนีย์ "ผมไม่มีอะไรที่ไม่ชอบพวกเขาในฐานะผู้กำกับเลย พวกเขารับได้กับการที่ผมชอบเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ผมก็เลยก้าวถอยหลังและทำตามการชี้นำของพวกเขา มันเป็นเหมือนการจับคู่เต้นรำของงานสร้างสรรค์ในแบบที่คุณอยากจะเจอครับ ครั้งนี้ผมรู้สึกว่าผู้ชมจะแปลกใจและสนใจใคร่รู้เกี่ยวกับการเดินทางของกัปตัน อเมริกาในครั้งนี้จากการตัดสินใจของเขา การนำเสนอแง่มุมฮีโร่แบบฟ้าบันดาลของโทนี่เป็นเรื่องที่ง่ายดายและเป็นที่คุ้นเคยอยู่แล้ว เขามักจะทำให้เรื่องต่างๆ ยุ่งเหยิงขึ้นเสมอแต่เขาก็มีความปรารถนาดี เพียงแต่ในหนังเรื่องนี้ คุณจะสงสัยว่ากัปตันคิดอะไรอยู่กันแน่ เขาเจอกับความสูญเสียบางอย่างในช่วงเริ่มต้นเรื่อง และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้เขาอยากจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ขั้นพื้นฐานที่เขามีมาเนิ่นนานแล้วน่ะครับ"

 

: โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์, Captain America 3, Captain America: Civil War

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สรุปรายชื่อผู้ชนะรางวัลออสการ์ครั้งที่ 96 ประจำปี 2024
  • สรุปผลรางวัล BAFTA Awards ครั้งที่ 77 ประจำปี 2024: Oppenheimer คว้ารางวัลสูงสุด
  • สรุปผลรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 81 ประจำปี 2024: Oppenheimer คว้าภาพยนตร์ ผู้กำกับ นักแสดงนำชาย ยอดเยี่ยม
  • บิ๊กบอสมาร์เวลตอบข่าวลือ พา สการ์เลตต์ โจแฮนสัน และ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ คืนจออีกครั้ง?
  • โจนาธาน เมเจอร์ส อยากให้ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ คัมแบ็กใน Avengers: The Kang Dynasty
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :
     
     
     
     

    ความคิดเห็นที่ 1  จากคุณ mdigital     13 ม.ค. 2567 23:40 น.


     1