Top
สัมภาษณ์ดารา บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์

 

สัมภาษณ์หนุ่มมาดเข้ม “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์”

สัมภาษณ์หนุ่มมาดเข้ม “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์”
กับการพลิกบทบาทล่าสุดในภาพยนตร์เรื่อง “หลุด4หลุด”
ตอน “ร้านของขวัญเพื่อคนที่คุณเกลียด”


 
 


ถาม

บทบาท-คาแร็คเตอร์

 

เรื่องนี้ผมรับบทเป็น “ธาดา” ครับ ก็เป็นพนักงานออฟฟิศหนุ่ม ที่ทะเยอทะยานและก็มีความเห็นแก่ตัว ทำทุกวิถีทางเพื่อผลประโยชน์ ของตัวเอง ใช้เพื่อนร่วมงาน และก็ใช้การเลียแข้งเลียขาเจ้านายในการที่จะ ไต่เต้าตำแหน่งขึ้นมาจนเป็นผู้จัดการแผนกของบริษัท

ถาม ถือว่าเป็นการพลิกคาแร็กเตอร์ตัวเองจากเรื่องอื่นๆ
 

ก็ถือว่าพลิกบทได้นะครับ เพราะว่าบทนี้มันก็มีความร้ายอยู่ในตัวลึกๆ ข้างในอะไรแบบนี้ ไม่ได้แสดงออกมามาก ก็เหมือนเป็นการแสดงออก ด้านมืดของตัวละครด้วย ก็สนุกดีครับ ไม่ค่อยได้เล่นอะไรแบบนี้



ถาม

แล้วตัวธาดาต้องไปเจอกับเหตุการณ์อะไรบ้างถึงทำให้ไปเกี่ยวพันกับ “ร้านของขวัญเพื่อคนที่คุณเกลียด”

  คือในเรื่องนี้เนี่ยมันเหมือนเปิดเรื่องมาด้วยธาดาได้รับตำแหน่งผู้จัดการแผนก ก็จะมีผู้คนมากมายในแผนกในบริษัทเอาของขวัญมาให้เหมือนเป็นการแสดง
ความยินดี โดยที่ธาดาเองไม่รู้เลยว่าผู้คนเหล่านี้เนี่ยมุ่งร้ายคิดไม่ดีกับเขา แล้วของขวัญที่เอามาให้เนี่ยก็ซื้อมาจากร้านของขวัญร้านหนึ่งที่เหมือน
จิตๆหน่อย คนขายก็จะแบบจิตๆ หน่อยของขวัญหน้าตาธรรมดาเหมือนของ ใช้ทั่วไปนี่แหละครับ แต่มันจะพิสดารตรงที่คนที่ใช้ของพวกนี้จะเจอแต่ เรื่องร้ายๆ ประโยชน์ที่จะได้ไม่มี มีแต่เรื่องเจ็บตัว แล้วของบางชิ้นก็ใช้ ฆ่าคนได้ด้วย มันก็เลยทำให้ธาดาต้องไปเจอกับเหตุการณ์ประหลาดที่ทำให้ เขาแทบเอาชีวิตไม่รอด




ถาม

ในเรื่องนี้แบบว่าต้องโทรมมากและสาหัสสากรรจ์ขนาดไหน

เยอะมากครับ โดนจัดให้หนักเลยครับ เพราะว่าในเรื่องเนี่ยพอตัวธาดา เริ่มรู้ว่าของขวัญที่ได้รับมาเนี่ย มันเริ่มเป็นของขวัญที่เป็นภัยกับตัวเอง เขาก็เริ่มที่จะจิตตก เริ่มที่จะคิดมาก คิดไปโน่นคิดมานี่ เพราะว่าธาดาผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มาเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นโดนรถชน หรือว่าโดนฟ้าผ่า หรืออะไรอีกเยอะแยะ แล้วมีฉากนึงเป็นฉากรางรถไฟ ฉากนี้จัดหนักมากครับ ผมก็ต้องเจอทั้งฝน ทั้งเลือด ทั้งแต่งเอฟเฟ็คต์ แถมถ่ายไปถ่ายมาดันโดนไฟช็อตตรงรางรถไฟอีก สะดุ้งเลยครับ เรื่องนี้โทรมที่สุดตั้งแต่เล่นมาเลยครับ แต่ก็มันดี นานๆ ได้เล่นอะไรแบบนี้ซักทีครับ

ถาม  ในเรื่องนี้แบบว่าต้องโทรมมากและสาหัสสากรรจ์ขนาดไหน

เยอะมากครับ โดนจัดให้หนักเลยครับ เพราะว่าในเรื่องเนี่ยพอตัวธาดา เริ่มรู้ว่าของขวัญที่ได้รับมาเนี่ย มันเริ่มเป็นของขวัญที่เป็นภัยกับตัวเอง เขาก็เริ่มที่จะจิตตก เริ่มที่จะคิดมาก คิดไปโน่นคิดมานี่ เพราะว่าธาดา ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ มาเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นโดนรถชนหรือว่าโดนฟ้าผ่า หรืออะไรอีกเยอะแยะ แล้วมีฉากนึงเป็นฉากรางรถไฟ ฉากนี้จัดหนัก มากครับ ผมก็ต้องเจอทั้งฝน ทั้งเลือด ทั้งแต่งเอฟเฟ็คต์ แถมถ่ายไปถ่ายมา ดันโดนไฟช็อตตรงรางรถไฟอีก สะดุ้งเลยครับ เรื่องนี้โทรมที่สุดตั้งแต่ เล่นมาเลยครับ แต่ก็มันดี นานๆ ได้เล่นอะไรแบบนี้ซักทีครับ

ถาม

ความยากง่ายระหว่างการเล่นหนังยาวกับหนังสั้น
แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน

 

มันจะแตกต่างตรงการเล่าเรื่องมากกว่าครับ เพราะว่าในเรื่องเนี่ย เหตุการณ์มันเกิดขึ้นแค่ 2 วันหรือ 3 วัน และด้วยความที่เป็นหนังสั้นเนี่ย มันเหมือนกับว่าเราต้องประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดเข้ามา แล้วมันเหมือนกับ ไม่มีเวลาเล่าเรื่องเท่าไรนะครับ ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วก็ต้องบิ๊วอารมณ์ตัวเองอย่างหนักอะไรแบบนี้ด้วย ตรงนี้ก็อาจจะทำให้ การแสดงยากขึ้นมาอีกหน่อยครับ มันจะอัดๆ เข้ามา ไม่ค่อยมีช่วงที่ ผ่อนคลายเท่าไหร่ครับ

ถาม การร่วมงานกับนักแสดงในเรื่อง
 

ครับ ในเรื่องนี้นอกจากผมแล้วก็ยังมี “พี่โจ๊ก” (อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ) กับ “พี่อ๊อฟ” (ปริญญา งามวงศ์วาน) ที่มาเล่นด้วย ความจริงกับพี่โจ๊ก-พี่อ๊อฟเนี่ย ผมเป็นแฟนหนังเขานะ ผมก็ติดตามหนังเขา มาตั้งแต่ “โกลคลับฯ” แล้วก็มา “อหิงสาฯ” แล้วก็หนังทุกเรื่องที่เขาเล่น ผมรู้สึกว่าพี่ 2 คนนี้เขาเล่นกวน.. เป็นธรรมชาติมากๆ อะไรแบบเนี้ย ชอบมากเลยครับ และตอนแรกพอรู้ว่าจะได้เล่นกับพี่โจ๊กก็ดีใจ เพราะว่าก็ติดตามผลงานเขามาตลอด แล้วมารู้อีกทีหนึ่งว่าพี่อ๊อฟ ก็มาเล่นด้วยก็ยิ่งดีใจเข้าไปอีก และพอเล่นกับเขาแล้วเนี่ย โดยเฉพาะพี่อ๊อฟเนี่ยเล่นเป็นเจ้าของร้านขายของขวัญ แบบคาแร็คเตอร์ ของเขาก็แบบจิตๆ กวนๆ ตามสไตล์เขาเลย เล่นเป็นธรรมชาติมากๆ สนุกดีครับเวลาเล่นด้วยกันเนี่ยมันทำให้ทำงานง่ายขึ้นไปอีก





ถาม

มีฉากหลุดๆบ้างไหม อย่างหลุดขำเพราะกวนของเขา

หลุดๆ ก็มีครับ เล่นกับพี่อ๊อฟเนี่ย คือแบบด้วยความกวนของเขา เขาจะกวนแบบ หน้าตายสไตล์เค้าเลย มันก็จะแบบขำบ้าง เพราะเคยดูแต่ในหนัง แต่พอมาเล่นกับพี่เขาด้วยตัวเองเนี่ย มันก็มีหลุดขำอยู่บ้างครับ

ถาม  การร่วมงานกับผู้กำกับ “พี่โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ”

กับพี่โขมผมก็เพิ่งมาร่วมงานกันเป็นครั้งแรกเหมือนกัน แต่ความจริงผม ก็เป็นแฟนหนังพี่โขมนะ ก็ติดตามหนังพี่โขมมาตลอด ตอนแรกที่รู้ว่าเป็น พี่โขมกำกับก็ดีใจเช่นกัน รู้สึกว่าพี่โขมเป็นผู้กำกับที่มีมุมมองค่อนข้าง แปลกใหม่จากคนอื่น แล้วก็เป็นผู้กำกับที่เก่งด้วย ทำหนังแต่ละเรื่องก็โดนๆ ทั้งนั้น ตอนแรกเนี่ยที่ได้รับบทมา แล้วก็รู้ว่าเป็นพี่โขมกำกับเนี่ย
ผมก็ลองอ่านดูซึ่งพาร์ทแรกๆของบทเนี่ยจะเป็นเกี่ยวกับพวกของขวัญแปลกๆ พวกนี้ ซึ่งผมก็รู้สึกว่า เฮ้ย...มันออกจะการ์ตูนไปหรือเปล่า แต่ก็อยากรู้นะ ว่าจะถ่ายทอดออกมาเป็นหนังได้ยังไง แต่พออ่านผ่านครึ่งเรื่องไปเนี่ย ความหลอนประสาทความจิตหลุดของตัวธาดามันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็มันมาจบตอนท้ายเรื่องซึ่งเป็นไคลแม็กซ์ของเรื่องแล้วเนี่ย
ผมรู้สึกชอบมากเลย เป็นซีนที่เฉลยทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดกับตัวละครตัวนี้ ผมว่าเป็นซีนที่ผู้ชมต้องชอบแน่ๆ ครับ คือหนังมันจะมีลายเซ็นและมีกลิ่นอาย ของพี่เอกสิทธิ์ที่เขาเขียนการ์ตูนแนวจิตหลุดอยู่มากๆ เพราะพี่เขาเขียนบท เรื่องนี้ และยิ่งได้พี่โขมมากำกับด้วยนี่ยิ่งดูจิตๆ หลอนๆ เข้าไปใหญ่นะ ก็ดีใจที่ได้ทำงานกับผู้กำกับที่เก่งอีกคนหนึ่งของวงการครับ ผมว่ามันเป็นอะไรที่น่าสนใจมากครับ

ถาม

ความน่าสนใจโดยรวมของ “ร้านของขวัญฯ” และความน่าดูน่าติดตามของโปรเจ็คต์ “หลุด4หลุด” อยู่ที่ตรงไหนบ้าง

 

ก็เริ่มจากเรื่องของผมก่อนนะครับ เรื่อง “ร้านของขวัญเพื่อคนที่คุณเกลียด” นะครับ ผมก็อยากจะให้มาชมหนังอีกแนวหนึ่งซึ่งมันก็เป็นหนังแปลกๆ หนังแนวๆ ที่แบบสามารถเล่าเรื่องได้ภายในแบบครึ่งชั่วโมงแล้วทำให้คนลุ้นติดตามได้ตลอดว่า
เฮ้ย...จะเกิดเหตุการณ์อะไรต่อไปอีก หนังจะเดินเรื่องไปทางไหน แล้วพอถึงซีนสุดท้ายแล้วเนี่ยเรื่องราวมันจะคลี่คลายไปยังไง แบบว่าใครเป็นตัวการ
ของเรื่องนี้อะไรแบบนี้นะครับ ซึ่งผมว่าเป็นพล็อตเรื่องที่แหวกแนวดีครับ
ก็เป็นอีกสไตล์การกำกับของพี่โขม แต่ก็ยังคงกลิ่นอายตลกร้ายของพี่เค้าอยู่
ถ้ามีร้านนี้ขึ้นมาจริงๆ ก็คงจะฮิตติดตลาดแน่ๆ แต่มันก็ต้องมาพร้อมกับ
ความโกลาหลเหมือนกันนะผมว่า




 

 

ส่วนโปรเจ็คต์รวมๆ ของ “หลุด4หลุด” เท่าที่ผมได้ยินมานะครับ ก็อยากให้ติดตามชมทั้ง 4 เรื่องเลยก็คือเรื่องนี้เนี่ยมันก็พูดถึงเรื่องหลุด ชื่อเรื่องบอกแล้วว่ามันหลุดแต่ก็จะหลุดในแต่ละมุมแต่ละเรื่องในแต่ละแนว ทางของเรื่องอย่างเช่น “ฮูอากง”ของพี่มะเดี่ยวก็จะเป็นแนวแบบหลุด แบบขำๆ ส่วน “ร้านของขวัญฯ” ที่ผมเล่นก็จะแบบหลอนๆ เหวอๆ หน่อย ส่วน “คืนจิตหลุด” ของพี่จ่อย (อนันดา) ก็จะแบบดิบๆ หลอนๆ ส่วนเรื่อง “เกรียนล้างโลก” ที่อเล็กซ์เล่นเนี่ยผมได้ยินเรื่องการถ่ายทำมาว่ามัน น่าสนใจมากๆ เพราะถ่ายแบบ Long Take ยาวรวดเดียวจบกันเลย มันคงออกมากวนๆ นะครับ ผมคิดว่าคนดูน่าจะชอบเรื่องนี้กันเพราะเป็น
สี่เรื่องสี่รสที่ไม่ซ้ำกันเลยครับ

ถาม

นิยามความ “จิตหลุด” ของบอยเป็นอย่างไร

 

“จิตหลุด” เหรอครับ มันก็พูดถึงความไม่ปกติของคนนะครับ ซึ่งมันไม่ปกติได้ตั้งหลายด้านครับ ไม่ว่าจะเป็นเหมือนคนบ้าจิตหลุด คนสติไม่สมบูรณ์ หรือว่าความจริงมันหลุดได้หมดครับ หลุดขำ หลุดรั่ว จากปกติที่เคยเป็นมา สุดท้ายแล้วก็อยากให้ทุกคนลอง มาหลุดกับพวกเราดูครับ รับรองว่าออกมาแล้วสนุกแน่นอนครับ “หลุด4หลุด”  20  มกราคม 54 ครับ



* ดูประวัติ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์

* ดูอัลบั้มรูป บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์

 


 
 

Box Office

เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.
เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.

บทสัมภาษณ์ทั้งหมด

 
ยังไม่มีข้อมูล
หน้าแรกย้อนกลับ [ 1 ] หน้าถัดไปหน้าสุดท้าย
 
 

ติดตามหนังดี : Youtube Instagram Facebook Twitter  

MMM Digital Asset Co.,Ltd.
109 อาคารซีซีที ชั้น 2 ถนนสุรวงศ์
แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
Tel. 0-2234-7535    FAX. 0-2634-4269
E-mail: webmaster@nangdee.com   © 2006 nangdee.com
แผนที่ | sitemap | ติดต่อโฆษณา