Disney+ Hotstar ปล่อยวิดีโอและภาพของวาฬฟินจำนวนหลายร้อยตัวขณะรวมกลุ่มล่าเหยื่อเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกภาพในประวัติศาสตร์ โดยภาพเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ออริจินัล "Epic Adventures with Bertie Gregory" จากเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ที่กำลังจะสตรีมบน Disney+ Hotstar ในวัน Disney+ Hotstar Day 8 กันยายนนี้

เบอร์ตี้ เกรกอรี (Bertie Gregory) และทีมงานต้องใช้ชีวิตบนเรือตัดน้ำแข็งขนาดยาวเพียงแค่ 75 ฟุตเป็นระยะเวลานานถึง 6 สัปดาห์ในการถ่ายทำที่ช่องแคบเดรก บริเวณปลายคาบสมุทรแอนตาร์กติก เพื่อบันทึกภาพสิ่งมีชีวิตสุดพิศวงอย่างวาฬฟินซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก บางตัวมีขนาดถึง 90 ฟุต โดยครั้งนี้เขาสามารถบันทึกภาพของวาฬได้มากกว่า 300 ชีวิต รวมไปถึงนกอัลบาทรอส นกทะเลหลายพันตัว และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกเป็นจำนวนมาก เบอร์ตี้และทีมงานต้องฟันฝ่าสภาพอากาศสุดขั้วท่ามกลางพายุที่มีความเร็วลมมากกว่า 175 กม./ชม. โดยพวกเขาใช้เทคนิคการถ่ายทำ 3 รูปแบบเพื่อบันทึกภาพให้ได้ครบทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเป็น การใช้โดรนในการเก็บภาพจากมุมสูง กล้องกันสั่นความทนทานระดับใช้ในทางการทหารสำหรับถ่ายทำเหนือระดับน้ำ และอุปกรณ์ดำน้ำเพื่อเก็บภาพน่าตื่นตาตื่นใจใต้มหาสมุทร "ขณะที่ฤดูร้อนเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงในทวีปแอนตาร์กติกา เวลาช่วงกลางวันจะสั้นมาก ๆ และสภาพอากาศก็โหดร้าย สุดท้ายเราเลยได้ถ่ายทำแบบจริงจังเพียงแค่ 6 วันจากทริปกลางทะเล 6 สัปดาห์ ความทุ่มเทของพวกเราให้ผลลัพธ์อันคุ้มค่า เพราะเราพยายามจนได้ค้นพบกลุ่มวาฬฟินที่รวมตัวกันล่าเหยื่อเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกภาพมา การได้ดำน้ำท่ามกลางสิ่งมีชีวิตสุดพิศวงเหล่านี้เป็นประสบการณ์ที่พิเศษที่สุดในชีวิต ซึ่งผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้รับโอกาสนั้น" เบอร์ตี้ เกรกอรี กล่าว

 
ซีรีส์ออริจินัล "Epic Adventures with Bertie Gregory" ที่จะสตรีมบน Disney+ Hotstar วันที่ 8 กันยายนนี้ สร้างความแตกต่างจากรายการสารคดีธรรมชาติทั่วไปจากการถ่ายทอดชีวิตสัตว์ป่าด้วยเทคโนโลยีการถ่ายทำอันล้ำสมัยรูปแบบใหม่ ที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกราวกับว่าได้สัมผัสประสบการณ์ทุกช่วงขณะของการเดินทางด้วยตัวเอง เบอร์ตี้ เกรกอรี (Bertie Gregory) วัย 29 ปี นักผจญภัยรุ่นใหม่และผู้กำกับสารคดีชีวิตสัตว์ป่าเจ้าของรางวัล BAFTA จะพาผู้ชมออกเดินทางผ่านหน้าจอไปยังพื้นที่ธรรมชาติที่สุดแสนจะลึกลับและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลกท่ามกลางสภาพอากาศสุดขั้ว ตั้งแต่ทวีปแอนตาร์กติกาอันหนาวเหน็บ ไปจนถึงป่าอันห่างไกลผู้คนในแซมเบีย แอฟริกา หรือใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิกที่ห่างจากชายหาดในคอสตาริกาออกไปหลายร้อยไมล์ เขาจะพาผู้ชมออกเดินทางไปในทริปผจญภัยอันยิ่งใหญ่และอบอุ่นหัวใจเพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ที่อาศัยอยู่ร่วมโลกใบเดียวกับพวกเรา จนแทบจะเหมือนกับว่าผู้ชมได้ออกเดินทางไปกับเบอร์ตี้ด้วยตัวเอง

นอกจากการบันทึกภาพกลุ่มวาฬยักษ์ การเดินทางครั้งนี้ยังมีจุดประสงค์เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ผู้ดูแลรูปแบบการอพยพของวาฬฟิน ได้เก็บข้อมูลเพื่อศึกษาและทำความเข้าใจสิ่งมีชีวิตชนิดนี้มากขึ้น การค้นพบกลุ่มวาฬฟินเป็นจำนวนมากหลังจากพวกมันเคยถูกล่าจนเกือบสูญพันธุ์ในช่วงศตวรรษที่ 20 ถือเป็นสัญญาณอันดีว่าวาฬฟินกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นหลังจากมีการบังคับใช้นโยบายห้ามล่าและฆ่าวาฬเพื่อการพาณิชย์ โดยนับเป็นของความพยายามอนุรักษ์สัตว์ป่าที่เห็นผลชัดเจนซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน และยังถือเป็นตัวอย่างชั้นดีว่าธรรมชาตินั้นสามารถฟื้นฟูได้หากให้โอกาสพวกมันได้ดูแลตัวเอง

"Epic Adventures with Bertie Gregory" อำนวยการสร้างโดย Wildstar Films สำหรับเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ดำเนินรายการและกำกับภาพโดย เบอร์ตี้ เกรกอรี (Bertie Gregory) วาเนสซา เบอร์โลวิตซ์ (Vanessa Berlowitz) และ อันวาร์ มามอน (Anwar Mamon) นั่งแท่นผู้อำนวยการสร้างจาก Wildstar กำกับโดย เจมส์ บริกเคลล์ (James Brickell) โดยมี ฮิวจ์ เพียร์สัน (Hugh Pearson), ซูซี โพวีย์ (Susie Povey), พาร์คเกอร์ บราวน์ (Parker Brown), จอร์จ พากลิเอโร (George Pagliero) และ วิลล์ เวสต์ (Will West) ร่วมกำกับ เจเน็ต ฮัน วิสเซอริง (Janet Han Vissering) และ ดรู โจนส์ (Drew Jones) นั่งแท่นผู้อำนวยการสร้างจากเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก