เคท บลันเช็ตต์ เป็นผู้อำนวยการด้านศิลปะร่วมและซีอีโอร่วมแห่ง Sydney Theatre Company ควบคู่กับแอนดรูว์ อัพทัน เธอสำเร็จการศึกษาจาก Australian National Institute of Dramatic Art และมี Honorary Doctorates of Letters จาก University of New South Wales และ University of Sydney
บลันเช็ตต์ได้รับรางวัล Academy Award® จากการรับบทเป็นแคทเธอรีน เฮพเบิร์น ในภาพยนตร์อัตชีวประวัติของฮาเวิร์ด ฮิวจ์ส ผลงานของมาร์ติน สกอร์เซซี่แห่งปี 2004 เรื่อง The Aviator ที่เธอได้รับรางวัล BAFTA และ Screen Actors Guild (SAG) Awards® รวมถึงการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Golden Globe ในปี 2008 บลันเช็ตต์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscars® 2 รางวัล สาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากเรื่อง Elizabeth: The Golden Age และสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก Im Not There ทำให้เธอเป็นนักแสดงคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์แห่ง Academy ที่มีการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสำหรับการแสดง 2 สาขาในปีเดียวกัน นอกจากนั้นเธอยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล SAG และ BAFTA Award สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมและนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมตามลำดับ สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Elizabeth: The Golden Age และ Im Not There โดยภาพยนตร์เรื่องหลังทำให้เธอได้รับรางวัล Golden Globe Award, Independent Spirit Award รางวัลจากนักวิจารณ์อีกหลายรางวัล และ Volpi Cup for Best Actress ที่งาน Venice Film Festival ประจำปี 2007
เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscar® ครั้งแรก และได้รับรางวัล BAFTA, Golden Globe Award และ London Film Critics Circle Awards จากการรับบทเป็นราชินีเอลิซาเบ็ธที่ 1 ในภาพยนตร์ของเชคคาร์ คาพูร์ เรื่อง Elizabeth เธอยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscar®, Golden Globe และ SAG Award® จากการแสดงของเธอในเรื่อง Notes on a Scandal นอกจากนั้นบลันเช็ตต์ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Golden Globe สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ในภาพยนตร์ของโจเอล ชูมัคเกอร์ เรื่อง Veronica Guerin และการแสดงของเธอในภาพยนตร์ของแบร์รี่ เลวินสัน เรื่อง Bandits และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA Award อีกรางวัลจากการแสดงของเธอในภาพยนตร์ของแอนโธนี่ มิงเฮลล่า เรื่อง The Talented Mr. Ripley
เมื่อไม่นานนี้บลันเช็ตต์แสดงในภาพยนตร์ของวูดดี้ อัลเล็น เรื่อง Blue Jasmine และกลับมารับบทบาทในภาพยนตร์ไตรภาคของปีเตอร์ แจ็คสัน เรื่อง The Hobbit บลันเช็ตต์ได้รับกาลาเดรียลครั้งแรกในภาพยนตร์ไตรภาคของแจ็คสัน เรื่อง The Lord of the Rings ในปีนี้บลันเช็ตต์จะแสดงในภาพยนตร์ของเทอร์เรนซ์ มาลิค เรื่อง Knight of Cups ร่วมกับนาตาลี พอร์ทแมน และ คริสเตียน เบล และจะให้เสียงพากย์ตัวละครวอลก้าในภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่กำลังจะเข้าฉาย เรื่อง How to Train Your Dragon 2
ผลงานที่มีชื่อเสียงของเธอล่าสุด ได้แก่ ภาพยนตร์ของโจ ไรท์ เรื่อง Hanna ภาพยนตร์ของริดลีย์ สก็อตต์ เรื่อง Robin Hood ภาพยนตร์ของเดวิด ฟินเชอร์ เรื่อง The Curious Case of Benjamin Button ภาพยนตร์เรื่องดังของสตีเฟ่น สปีลเบิร์ก เรื่อง Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull, ภาพยนตร์ของสตีเฟ่น โซเดอร์เบิร์ก เรื่อง The Good German, Babel และภาพยนตร์ของเวส แอนเดอร์สัน เรื่อง The Life Aquatic with Steve Zissou
ผลงานของเธอที่มีชื่อเสียงเรื่องอื่น ได้แก่ ภาพยนตร์ของจิม จาร์มุช เรื่อง Coffee and Cigarettes ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Independent Spirit Award, ภาพยนตร์ของรอน ฮาเวิร์ด เรื่อง The Missin g, ภาพยนตร์ของกิลเลียน อาร์มสตรอง เรื่อง Charlotte Gray, ภาพยนตร์ของแลสซี่ ฮัลสตรอม เรื่อง The Shipping News, ภาพยนตร์ของโรแวน วูดส์ เรื่อง Little Fish, ภาพยนตร์ของไมค์ นีเวล เรื่อง Pushing Tin, ภาพยนตร์ของโอลิเวอร์ พาร์คเกอร์ เรื่อง An Ideal Husband, ภาพยนตร์ของแซม ไรมี่ เรื่อง The Gift, ภาพยนตร์ของแซลลี่ พอตเตอร์ เรื่อง The Man Who Cried, ภาพยนตร์ของบรูซ เบอเรสฟอร์ด Paradise Road, Thank God He Met Lizzie ที่เธอได้รับรางวัล Australian Film Institute (AFI) และ Sydney Film Critics Awards สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม และภาพยนตร์ของกิลเลียน อาร์มสตรอง เรื่อง Oscar and Lucinda ที่เธอแสดงคู่กับราล์ฟ ไฟน์ส จนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล AFI สาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยม
บลันเช็ตต์สร้างผลงานละครเวทีที่ออสเตรเลียไว้อย่างแพร่หลาย และใช้ชีวิตต่างแดนเป็นเวลา 5 ปีในช่วงที่เธอรับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายศิลปะร่วมและซีอีโอร่วมแห่ง Sydney Theatre Company (STC) ในช่วงนี้บลันเช็ตต์รับบทเป็นริชาร์ดที่ 2 ในการแสดงของ STC ที่มีชื่อเสียงเรื่อง The Wars of The Roses, บลันเช ดู บัว ในการแสดงของเทนเนสซี่ วิลเลียมส์ เรื่อง A Streetcar Named Desire กำกับโดยลิฟ อัลแมนน์ ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงอย่างมากมายจากที่ซิดนีย์ไปถึงวอชิงตันและนิวยอร์ค (การแสดงของเธอได้รับการประกาศจาก The New York Times ให้เป็น Performance of the Year) และเธอได้รับรางวัล Helen Hayes Award สาขานักแสดงหญิงที่โดดเด่นในผลงานที่ไม่ได้สร้างในประเทศ, เยเลน่า ใน Uncle Vanya ของอังตอง เชคคอฟ เวอร์ชั่นของแอนดรูว์ อัพตอน เป็นส่วนหนึ่งของฤดูกาล STC 2010 Main Stage ที่มีการแสดงในวอชิงตันดีซี และ Lincoln Center Festival เมืองนิวยอร์คเมื่อเดินมิถุนายน 2012 และเธอได้รับรางวัล Helen Hayes Award สาขานักแสดงหญิงที่โดดเด่น ล่าสุดเธอรับบทเป็น ล็อตเต้ ในการแสดงของบอตโต้ สเตราซ์ เรื่อง Gross und Klein ที่มีการทัวร์แสดงทั่วยุโรปเมื่อปี 2012 ต่อมาที่ฤดูกาลแสดงในซิดนีย์ปี 2011 และเป็นส่วนหนึ่งของ London Cultural Olympiad การแสดงของเธอในเรื่อง Gross und Klein ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ทั่วโลก และทำให้เธอได้รับรางวัล Helpmann Award สาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยมที่งาน Evening Standard Theatre Awards ช่วงซัมเมอร์ปี 2013 บลันเช็ตต์ได้ร่วมแสดงกับอิซาเบล ฮัพเพิร์ต ในการแสดงที่ดัดแปลงมาจากผลงานของฌอง จีเน็ต เมื่อปี 1947 ของ Sydney Theatre Company เรื่อง The Maids กำกับฯ โดย เบเนดิคต์ แอนดรูว์ส ดัดแปลงโดยแอนดรูว์ อัพตัน
บลันเช็ตต์ได้รับรางวัลในงาน Centenary Medal for Service to Australian Society จากการแสดงของเธอ และในปี 2007 เธอได้รับการแต่งตั้งจากนิตยสาร Time ให้เป็น 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลที่สุด เธอยังได้รับดาวประดับที่ Hollywood Walk of Fame อีกด้วย
ในปี 2008 บลันเช็ตต์มีส่วนร่วมในงานสร้างสรรค์แห่ง Prime Minister of Australia’s National 2020 Summit เธอเป็นผู้ให้การสนับสนุนในงาน Sydney Film Festival และ Ambassador for the Australian Conservation Foundation รวมถึง Australian Film Institute