ยินดีต้อนรับสู่แดนอาราคิส! หลังจากเมื่อวานแฟน ๆ เพิ่งจะได้ตื่นเต้นกับแรกของ ทิโมธี ชาลาเมต์ จากภาพยนตร์เรื่อง Dune ชิ้นงานล่าสุดของผู้กำกับ เดนิส วิลล์เนิฟ กันไปหมาด ๆ ทาง Vanity Fair ก็ไม่รอช้า เสิร์ฟภาพออกมาอีกชุดใหญ่ให้แฟน ๆ ได้ฟินกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภาพใหม่ที่ปล่อยตามออกมานี้เผยให้เราได้เห็นโฉมหน้าของเหล่านักแสดงที่มารับบทเป็นตัวละครหลักของเรื่องกันแบบชัด ๆ ทั้ง ออสการ์ ไอแซค, เซนดายา, จอช โบรลิน, เจสัน โมมัว, ฮาเวียร์ บาร์เด็ม และ รีเบกก้า เฟอร์กูสัน แถม วิลล์เนิฟ กับทาง Warner Bros. ยังคอนเฟิร์มแล้วด้วยว่าภาพยนตร์เรื่อง Dune ที่เรากำลังจะได้ชมกันในเดือนธันวาคมนี้ จะเป็นเรื่องราวเพียงแค่ครึ่งแรกจากงานเขียนของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต เมื่อปี 1965 ส่วนครึ่งหลังพวกเขาจะเก็บมันเอาไว้ถ่ายทอดลงในหนังภาคต่อ คล้าย ๆ กับ It และ It Chapter Two นั่นเอง

"ผมไม่เห็นด้วยที่จะดัดแปลงหนังสือเล่มนี้ออกมาเป็นหนังเพียงแค่เรื่องเดียว" วิลล์เนิฟ เผยกับทาง Vanity Fair "โลกใบนี้มันสลับซับซ้อนมาก มันเป็นโลกที่ใส่พลังลงไปในรายละเอียดต่าง ๆ ของมัน"

 

 

ชาลาเมต์ จะมารับบทเป็น "พอล อาทีย์เดส" ผู้ที่ตระกูลสูงศักดิ์ของเขาได้เข้ามาครอบครองดาวอาราคิส ดินแดนทะเลทรายที่เป็นแหล่งกำเนิดของทรัพยากรอันล้ำค่าที่สุดในโลก ซึ่งก็คือเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติช่วยให้มีความสามารถเหนือมนุษย์ทั่ว ๆ ไป และนั่นมันก็นำมาซึ่งศัตรูที่ต้องการจะล้มอำนาจของตระกูลอาทีย์เดส เพื่อที่จะได้เข้ามาครอบครองทรัพยากรล้ำค่าดังกล่าว วิลล์เนิฟ เลือกทะเลทรายในประเทศจอร์แดนเป็นสถานที่ถ่ายทำจำลองดาวอาราคิส ซึ่ง ชาลาเมต์ ได้เล่าถึงบรรยากาศในการถ่ายทำให้ฟังว่า "มันเหมือนฝันมากจริง ๆ" พร้อมเสริมอีกว่า "มันมีสภาพภูมิประเทศแบบโกไลแอธเหล่านี้อยู่ ที่ซึ่งคุณอาจจะจินตนาการได้ว่ามันมีอยู่บนดาวเคราะห์ในจักรวาลของเราจริง ๆ แต่ไม่ใช่บนโลกใบนี้"

การถ่ายทำในประเทศจอร์แดนภายใต้อุณหภูมิที่ร้อนระอุแบบสุด ๆ ทำให้เหล่านักแสดงต้องใส่ชุดคอสตูมแบบ Stillsuit ที่ใช้สำหรับใส่ในทะเลทรายเลยทีเดียว ซึ่ง ชาลาเมต์ เล่าให้ฟังว่า "ผมจำได้ว่าผมกำลังจะออกจากห้องตอนประมาณตี 2 ตอนนั้นอุณหภูมิน่าจะอยู่ที่ประมาณ 100 องศาได้ บางครั้งเราก็ต้องถ่ายทำกันภายใต้อุณหภูมิสูงถึง 120 องศา พวกเขาต้องใส่หมวกออกไปข้างนอกนั่น ถ้ามันร้อนจนเกินไป ผมลืมไปว่าตัวเลขที่แน่นอนมันเท่าไหร่กันแน่ แต่มันร้อนจนคุณคงไม่สามารถทำงานต่อได้เลยล่ะ มันเป็นงานหนักมากจริง ๆ ซึ่งมันก็ช่วยได้นะที่ต้องอยู่ในชุด Stillsuit เพื่อที่จะอยู่ในสภาพอ่อนล้าระดับนั้นได้"

 

 

เซนดายา รับบทเป็น "ชานิ" สาวลึกลับ ผู้ที่คอยตามหลอกหลอนพอลอยู่ในฝันเหมือนกับภาพที่ติดอยู่ในใจ ด้วยดวงตาสีฟ้าอันเปล่งประกาย

 

 

บาร์เด็ม รับบทเป็น "สติลการ์" ผู้นำเผ่า Fremen ที่อาศัยอยู่บนดาวอาราคิส

 

 

ทุกคนยืนหยัดเพื่อครอบครัวอาทีย์เดส

 

 

เฟอร์กูสัน รับบทเป็น "เลดี้ เจสสิก้า อาทีย์เดส" - "เธอเป็นแม่ เธอเป็นเมียน้อย และเธอก็เป็นทหาร" เฟอร์กูสัน เผย "คุณภาพของผู้หญิงส่วนมากถูกยกระดับขึ้นมาแล้ว"

 

 

ไอแซค รับบทเป็น "ดยุก เลโต้ อาทีย์เดส" พ่อของพอล และผู้นำตระกูลอาทีย์เดส

 

 

โมมัว รับบทเป็น "ดันแคน ไอดาโฮ" นักรบผู้องอาจ และที่ปรึกษาของเจ้าชายพอล

 

 

โบรลิน รับบท "เกอร์นีย์ ฮาลล์เล็คซ์" นักรบผู้องอาจ และที่ปรึกษาของเจ้าชายพอล

 

 

ชารอน ดันแคน-บรูสเตอร์ รับบท "ดร.เลียต ไคเนส" นักนิเวศวิทยา ซึ่งก่อนหน้านี้บทนี้เคยเป็นผู้ชายผิวขาว "เธอพยายามอยู่อย่างสงบท่ามกลางผู้คนมากมาย พวกผู้หญิงทำได้ดีในเรื่องแบบนั้นนะ ดังนั้นทำไมไคเนสถึงจะเป็นผู้หญิงไม่ได้ล่ะ? ทำไมไคเนสถึงไม่ควรจะเป็นผู้หญิง?" บรูสเตอร์ กล่าว

เมื่อถามผู้กำกับ วิลล์เนิฟ ว่าทำไมถึงอยากให้ Dune อยู่ในศตวรรษที่ 21 เขาก็ตอบว่า "มันไม่สำคัญหรอกว่าสิ่งที่คุณเชื่อคืออะไร โลกกำลังจะเปลี่ยนไป เราจึงจำเป็นต้องดัดแปลง นั่นคือเหตุผลที่ผมมอง Dune เป็นเช่นนั้น หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนขึ้นในศตวรรษที่ 20 มันเป็นมโนภาพอันห่างไกลจากความเป็นจริงของน้ำมัน รวมถึงระบบทุนนิยมและการแสวงหาผลประโยชน์ การใช้ทรัพยากรเกินขีดจำกัดของโลก ทุกวันนี้หลาย ๆ อย่างมันเลวร้ายยิ่งกว่านั้น มันเป็นเรื่องราวแบบ Coming-of-age แต่มันก็เรียกว่าหนังแอ็คชั่นสำหรับวัยรุ่นได้เหมือนกัน"

Dune มีกำหนดเข้าฉายในบ้านเราวันที่ 17 ธันวาคมนี้

 

ที่มา: Vanityfair.com