Men's Health คว้าตัวนักแสดงหัวบึ้ก เจสัน โมมัว (Jason Momoa) ถ่ายเซตภาพกลางทะเลทรายสุดคูลพร้อมพูดคุยถึงผลงานภาพยนตร์ชิ้นใหม่ Dune รวมถึงชีวิตครอบครัว และมุมมองต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานการ์ณในสังคมของเราในปัจจุบัน เริ่มต้นจากการขอแก้ข่าวก่อนเลยว่าตัวเขาเองนั้นไม่ใช่คนโหดตามลุคภายนอกที่ทุกคนเห็น

"ผมอาจดูตัวใหญ่และแกร่ง แต่ผมเปล่า ผมไม่เหมือนกับ คาล โดรโก้ ผมไม่แม้แต่จะเป็นราชาในบ้านของตัวเองซะด้วยซ้ำ! ผมกลัวภรรยาของผมเองจริง ๆ นะ" โมมัว แอบพูดถึงศรีภรรยา ลิซ่า โบเนต์ (Lisa Bonet)

โมมัว เล่าความหลังว่าตัวเขานั้นเกิดที่ฮาวายก็จริง แต่มาเติบโตที่นอร์วอร์ค ไอโอวาโดยการเลี้ยงดูของคุณแม่คนเดียว ในขณะที่คุณพ่อเป็นศิลปินนักวาดในฮาวายต่อไป ในเมืองเล็ก ๆ ที่เขาอยู่นั้นไม่ค่อยมีอะไรให้ทำนอกจากเที่ยวเล่นนอกบ้าน ทั้งฮ็อกกี้บนถนน ปีนผา แล้วก็กิจกรรมเอ็กซ์ตรีมต่าง ๆ ทั้งแต่เด็ก ซึ่งแม้ว่าปัจจุบัน เขาจะทำงานเป็นนักแสดงชื่อดังในฮอลลีวูด แต่ตัวเขานั้นยังคงเป็นชายที่รักครอบครัว รักการผจญภัย และมีอิสระในตัวเองเสมอ

"ผมทำงานหนักแต่ไม่ต้องการอะไรตอบแทน ผมเป็นคนของครอบครัวใหญ่ ภรรยาของผมเป็นคนที่ซับซ้อนแต่ฉลาด ส่วนลูก ๆ และผมเป็นเหมือนกับสัตว์ที่ต้องฝึกให้เป็นเด็กดีมากขึ้น ตัวผมมีงานเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ผมยังคงพยายามที่จะเป็นพ่อและสามีที่ดี"

โมมัว เล่าว่าบ้านของพวกเขาไม่มีโทรทัศน์ ลูก ๆ ของเขาไม่มีโทรศัพท์ใช้ส่วนตัว เพราะฉะนั้นพวกเขาจะเล่นสนุกไปกับการปีนกำแพงที่เขาสร้าง รวมถึงกิจกรรมเสริมทักษะอื่น ๆ อย่าง ว่ายน้ำ เล่นกีตาร์ ฟังแผ่นเสียง และเดินเขากับน้องหมาของพวกเขา โมมัว ยังเสริมอีกว่า แม้ว่าลูก ๆ จะสนุกสนานเวลาได้อยู่กับเขา หรือเดินทางไปทั่วโลกเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์กับเขา แต่เขาต้องมั่นใจว่าลูก ๆ จะไม่ขาดเรียน และได้ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน ๆ ของพวกเขาเอง หากพวกเขาโตขึ้นไป โมมัว ก็หวังว่าพวกเขาจะหาแฟนหนุ่มที่สามารถดูแลพวกเขาได้ดียิ่งกว่าที่เขาดูแล โบเนต์

ในส่วนของผลงานใหม่ Dune ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากฝีมือผู้กำกับ เดนิส วิลล์เนิฟ (Denis Villeneuve) โมมัว จะรับบทเป็น ดันแคน ไอดาโฮ ปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ดาบ ผู้ที่จะมาฝึกสอน พอล อาทีย์เดส (นำแสดงโดย ทิโมธี ชาลาเมต์) ซึ่งเป็นบทบาทที่ โมมัว รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เซ็นสัญญารับเล่นบทนี้เมื่อปี 2019 แต่ก็เป็นอะไรที่เขารู้สึกประหม่ามากเช่นเดียวกัน เพราะนับตั้งแต่ฉากแรกที่ได้ถ่ายทำ เขาก็ได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่อลังการของทั้งโปรดักชั่นงาน และออร่าทีมนักแสดงระดับแนวหน้าฮอลลีวูด อย่างเช่น ฮาเวียร์ บาร์เด็ม (Javier Bardem)

"เรากำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่ง แล้วมันเป็นฉากที่ ฮาเวียร์ ต้องเดินเข้ามาในห้องนี้ ผมไม่เคยเห็นใครเดินเข้าห้องได้อย่างปราดเปรื่องเหมือนบอสใหญ่อย่างนี้มาก่อน เขาเดินเข้ามาในห้องแล้วก็มองหน้าทุกคนในห้อง คือเขาจ้องทุกคนแต่หันกลับมาขยิบตาให้ผม จนผมแอบขำอยู่ในใจเพราะผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมนั่งอยู่ตรงนั้นในตอนนั้น หลังจากนั้นเขาก็พูดบทของเขาได้อย่างยอดเยี่ยม แต่แล้ว เดนิส ก็ลุกขึ้นไปพูดความเห็นกับเขา ผมช็อกไปเลยตอนนั้น แบบว่า มันเป็นไปได้ยังไงที่คุณจะเดินเข้าไปหาเขาแล้วให้คำแนะนำกับเขา เพราะงั้นผมเลยยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นแล้วก็รู้สึกตกใจหนักมาก เพราะผมต้องแสดงความเป็นไซ-ไฟเหล่านี้ออกไปทั้งหมด และมันไม่ใช่ความถนัดของผมเลย แต่พอผมได้ทำมันก็กลายเป็นว่าผมไม่ได้รับคำแนะนำอะไรเลย ผมรู้สึกแฮปปี้อย่างน่าเหลือเชื่อขนาดที่เกือบร้องไห้ได้งั้นเลย"

แม้ โมมัว จะไม่มั่นใจในตัวเองแต่สำหรับเพื่อนร่วมงานอย่าง ชาลาเมต์ แล้วนั้นกลับบอกว่า เขาเป็นเหมือนพลังงานบวกให้กับกองถ่ายและทำทุกอย่างได้ดีเลยเลยทีเดียว

"เจสัน สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนรอบตัวเขา เขาเป็นคนที่นำความสุขมาสู่การถ่ายทำในกองถ่ายทุกวัน เขาเป็นคนที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ความสนิทสนม และความเชื่อใจ ซึ่งเป็นอะไรที่สำคัญมากในญานะนักแสดง เขาเป็นคนที่มีมุมมองที่เป็นบวกในทุกด้าน คุณสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานบวกยกใหญ่ทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในกองถ่ายเลย"

หลังจากเสร็จสิ้นการทำงานกับ Dune โมมัว หวังว่าเขาได้รับโอกาสทำงานที่แตกต่างออกไปจากเดิม จริงอยู่ที่เขาสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ด้วยการเล่นบทบาทแบบเดิมซ้ำ ๆ แต่ความซ้ำซากจำเจนั้นไม่เคยอยู่ในสารบบของชายที่ชื่อ เจสัน โมมัว เลยแม้แต่น้อย เพราะเขาเองก็เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่รักครอบครัว เคยประหม่ากับการขอภรรยาออกเดตในอดีต อาจร้องไห้เวลาลูก ๆ โตขึ้นแล้วมีแฟนครั้งแรก รวมถึงเป็นชายผู้รักในการผจญภัยและมีอิสระในตัวเองสูงเท่านั้นเอง

ที่มา: Menshealth.com