Top
์ืnoon


      'นันดา' กับ 13 ปีบนเวทีนางแบบโลก

      หากพูดถึงนางแบบสายเลือดไทยที่มีชื่อเสียงอย่างจริงจังในวงการนางแบบระดับโลกต้องบอกว่ามีอยู่ไม่กี่คน
              แต่ นันดา ฮัมเปอร์ คือนางแบบลูกเสี้ยวไทย-เยอรมัน ซึ่งคร่ำหวอดในวงการนางแบบโลกมากว่า 13 ปี
              และเธอออกตัวว่าเธอคือคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่กลับไม่ค่อยมีคนไทยรู้จักเธอ วันนี้เลยขอตามติดไปพูดคุย
              กับเธอระหว่างที่เธอกำลังไปถ่ายแบบให้นิตยสารน้องใหม่ “โครว แมกกาซีน (Crow)” กันที่เน็ก สตูดิโอ

         



คำถาม
จุดเริ่มต้นของการเป็นนางแบบ?
  
นันดา
“ที่เยอรมนีเขาจะสอนให้เด็กทำงานตั้งแต่อายุ 16-17 ปี นันดาก็ไป
ทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านขายขนมปัง แล้วพอดีมีบริษัทเอเจนซี่ที่เยอรมนี
มาเจอเรา ซึ่งเขาจะหางานให้เอเจนซี่ทั่วโลกเลย ก็จะพยายามหางานที่
เข้ากับเราให้ได้ ทั้งที่ฝรั่งเศส อังกฤษ และสเปน แต่สุดท้ายเขาก็หา
เอเจนซี่ให้เราได้ที่นิวยอร์ก ตอนนั้นก็ดีใจมาก เพราะว่ายังไม่ค่อยมี
คนเอเชีย คนไทย ไปที่นิวยอร์กมาก เขาก็บอกว่าเอเจนซี่ที่นิวยอร์ก
สนใจนัน ตอนนั้นก็บินไปที่นิวยอร์กทันทีเลย ก็ไปอยู่ที่โน่นเกือบ
13 ปีแล้ว ก็มีบ้านอยู่ที่นิวยอร์ก แต่ว่าไปทำงานทั่วโลกเลย”

 
คำถาม คิดว่าอะไรคือจุดเด่นของเราที่ทำให้เขาเลือกเรา?

นันดา
“หน้าตาเราไม่เหมือนคนอื่น เดายากว่าเชื้อชาติไหน เป็นได้ทั้งคน
เอเชีย อเมริกัน เยอรมัน ทำให้คนเห็นอยากรู้ว่าเป็นใคร มาจากไหน
ตอนเด็กๆ ทุกคนก็จะบอกว่าทำไมเราหน้าตาแปลกจัง หน้าตาไม่สวย
แต่ตอนนี้ก็ดีใจที่ความน่าเกลียดของเราตอนเด็ก ๆ เขาทำให้สวยได้
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเมคอัพ เรื่องของผม (หัวเราะ)”



คำถาม      
เพื่อนร่วมงานล่ะ?

นันดา “จริง ๆ ก็เหมือนกับที่นี่ แต่จะบอกว่าเหมือนก็ไม่ได้ เพราะว่างานที่
โน่นจะมีการแคสติ้งไว้แล้ว มันจะไม่มีเรื่องเส้นสาย ว่าเป็นพวก ๆ
กันแล้วเอาไปเดินแบบไม่ใช่ แต่คือเขาจะบอกว่าอยากได้นางแบบ
ผมทอง สูงประมาณ 175 คือเขาจะมีข้อมูลเบื้องต้นมาให้เราแล้ว
แต่อาจจะมีบางทีที่เราบอกว่าคนนี้ดีนะ แต่เอเจนซี่ก็ต้องส่งข้อมูลไป
ให้ลูกค้าเพื่อให้ลูกค้ารีเควซมา แต่ส่วนมากเขาจะไม่มีเวลามาเลือก
เขาจะรีเควซมาเลยมากกว่า”


คำถาม มีท้อแท้บ้างไหม?

นันดา “ก็มีเวลาที่อยู่คนเดียวแล้วเสียใจ เหนื่อย ง่วงนอน กลับมาถึง
โรงแรมแล้วร้องไห้ก็มี แต่ตอนนี้เราก็เรียนรู้ว่าเราไม่ได้เหนื่อย
คนเดียว เราทำใจได้แล้ว ว่างานทุกอย่างมันไม่ได้มีข้อดีอย่าง
เดียว มันมีโพสซิทีฟและเนคกาทีฟ ทุกชิ้น เราต้องเป็น
โปรเฟสชั่นนอล เขาจ่ายตังค์เราก็เพราะเป็นงานของเรา
เราจะไปว่าอะไรไม่ได้ จะไปเปลี่ยนเมคอัพที่เราไม่ชอบไม่ได้
เราต้องเข้าใจว่าไม่ได้จะไปทำรูปสวยของเรา แต่เป็นรูปของ
แมกกาซีนเขา เขาอยากได้แบบนี้ เมคอัพแบบนี้เราก็ต้องยอม
ถ้าเราไม่ชอบ ขากลับ 5 โมงเย็น แล้วเราค่อยลบก็ได้
คืองานเราไม่ใช่โมเดล แต่มันคือทีมเวิร์ก ทุกคนต้องทำงาน
ร่วมกัน ถ้าช่างแต่งหน้าไม่เก่ง ช่างผมไม่เก่ง สไตลิสต์ ไม่เก่ง
ถ้าช่างภาพจัดไฟไม่เป็น รูปมันก็จะออกมาไม่ดี”




คำถาม ในเรื่องของการเป็นคนไทย วัฒนธรรมเป็นปัญหาสำหรับ
การทำงานเราไหม?


นันดา “นันดาเป็นลูกเสี้ยวค่ะ คุณพ่อเป็นลูกครึ่งเยอรมัน คุณแม่เป็นคนไทย
ทุกอย่างนันดาเป็นไทยหมดเลย คุณพ่อคุณแม่เกิดและโตที่เมืองไทย
ทั้งสองคน เราก็เหมือนกับคนไทยที่เกิดและเติบโตมาที่เยอรมนี
จริง ๆ ในใจนันเป็นคนที่ขี้อายมาก ไม่กล้าพูด แต่เวลาเราทำงาน
แล้ว เราจะแกร่งมากเลย จะตรงกันข้าม คือนันเป็นคนที่อยู่บนเซต
แล้วจะกล้ามากเลย แต่เวลาอยู่บ้าน หรือมาให้สัมภาษณ์จะรู้สึกว่า
ไม่กล้า คือข้างในเราจะเป็นคนไทยมากเลย แต่ข้างนอกจะเป็น
นิวยอร์กมาก”

คำถาม คำว่าซูเปอร์โมเดลสำหรับนันดาคืออะไร?

นันดา “สำหรับนันคิดว่าคนที่ไปนิวยอร์กได้หรือไปนอกได้ ทุกคนลำบาก
กันหมด ซูเปอร์โมเดล เป็นเหมือน ซูเปอร์มัม เพราะงานมันหนักมาก
เลย มันไม่ใช่เรื่องของชื่อเสียง แต่เป็นเรื่องของแรงของเรามากกว่า
บางทีเราก็ต้องถ่ายงานกับงู ทั้งที่ไม่เคยจับงูมาก่อน บางทีเราก็ต้อง
ทำอะไรที่ไม่อยากทำ อย่างนันสมัยก่อนนันกลัวน้ำมาก แล้วก็ต้องลง
ไปถ่ายรูปใต้น้ำ”

คำถาม การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า?

นันดา “จริง ๆ ปัญหาเฉพาะหน้าที่นั่นจะไม่ค่อยมี เพราะว่าจะมีการเซต
ไว้แล้ว แต่นันเป็นคนตัวเล็กมากเลย เสื้อผ้าก็จะใหญ่เกินไป แต่คือ
ก็ทำให้เล็กได้ ซึ่งถ้างานไหนเลือกนันแล้ว เขาจะรู้ว่านันตัวเล็กกว่า
คนอื่น แต่ทุกครั้งที่มีลูกค้าใหม่เราก็จะกลัวตลอดว่าเขาจะคิดว่าทำไม
ไม่บอกว่าตัวเล็ก”


คำถาม การเป็นนางแบบต้องทำให้เราอัพเดทเรื่องแฟชั่นมากแค่ไหน?

นันดา “เราก็ต้องรับรู้ว่าแฟชั่นตอนนี้เป็นยังไง ใครเป็นช่างภาพที่ดัง ใคร
เป็นสไตลิสต์ที่ดัง แมกกาซีนเล่มไหนถ่ายแบบไหน ช่างภาพแต่ละ
คนมีสไตล์ของเขาเอง เราก็ต้องทราบด้วย ไม่งั้นเวลาเราคุยแล้ว
เราไม่รู้เรื่อง เราก็จะเข้ากับเขาไม่ได้ ถ้าเราอยากอยู่ในระดับท็อป
เราก็ต้องรู้ทุกอย่าง อย่างเอเจนซี่ของนันจะสอนว่า ถ้าเราอยาก
ได้งานล้านเหรียญ เราก็ต้องทำตัวทำหน้าตาให้ได้ล้านเหรียญ
เหมือนกัน ถ้าเราอยากได้มาก เราก็ต้องให้เขามาก”


คำถาม ทำงานในวงการนางแบบมา 13 ปี ทำให้ทุกวันนี้การรับงานเรา
เปลี่ยนไปไหม?


นันดา “เปลี่ยนค่ะ เพราะตอนนี้นันเริ่มอายุมากขึ้น 31 ปีแล้ว ก็อยากจะ
อยู่บ้านบ้าง เพราะเราทำงานมา 13 ปี ไปทั้งออสเตรเลีย ไป
ฮ่องกง ไปอังกฤษ ไป ๆ มา ๆ ทุกวัน แล้วเราก็มีครอบครัวไม่ได้
คือตอนนี้นันกำลังจะแต่งงาน เดือน ก.ค. ที่จะถึงค่ะ ก็แพลน
ว่าจะอยู่บ้านมากขึ้น จะเริ่มเลือกงานมากขึ้น ถ้ามีงานที่เป็น
คอนเซปต์ที่เราชอบ เป็นงานที่ดีเราก็จะรับ ไม่งั้นเราก็คงจะลำบาก
ถ้าอยู่เมืองใดเมืองหนึ่งไม่ได้”


คำถาม แสดงว่ามีแพลนจะกลับมาอยู่เมืองไทย?

นันดา “อยากเหมือนกันค่ะ นันกำลังขอแฟนให้มาอยู่ในเอเชีย ในฮ่องกง
หรือเมืองไทย สัก 1-2 ปี เพราะนันอยากอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ด้วย
ท่านก็เริ่มจะแก่แล้ว ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะมาอยู่ได้ไหม เพราะเราไป
อยู่ระหว่างอิตาลีและนิวยอร์กมา 13 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมา
อยู่ที่นี่”
คำถาม แฟนนันดาเข้าใจงานนางแบบที่เราทำไหม?

นันดา “ก็เข้าใจค่ะ เห็นใจเขาเหมือนกัน เขาคงสงสัยว่าวันนี้เราไปไหน
วันนี้ไปอิตาลี พรุ่งนี้ทำไมต้องไปลอสแอนเจลิส คือเขาทำงานที่นิวยอร์ก
ทุกวัน แต่เขาก็ซับพอร์ตนันอย่างมากเลย นันก็รู้สึกดีที่มีแฟนอยู่ที่บ้าน
กลับบ้านแล้วมีคนรออยู่ รอทานอาหารด้วยกัน เพราะถ้าเดินทางด้วย
กันทั้งคู่คงอยู่ด้วยกันยาก เพราะคงคลาดกันไปคลาดกันมา
เดือน ก.ค. ที่จะถึงนี้ก็จะไปแต่งงานที่อิตาลี เพราะเขาเป็นคนอิตาลี
เอาพิธีไทยไปแต่งที่โน่น”


คำถาม ความรู้สึกกับการได้กลับมาทำงานที่เมืองไทย?

นันดา “ความรู้สึกของการมาทำงานที่นี่เมื่อ 10 ปีที่แล้วกับตอนนี้ก็ต่างกัน
เยอะเลย ที่นี่อาจจะดีกว่าที่โน่นด้วยซ้ำไป ช่างภาพ ช่างไฟ สไตลิสต์
เมคอัพ ทุกคนเก่งมากเลย”


คำถาม คิดไหมว่าอนาคตถ้าเราไม่ได้ทำนางแบบแล้วจะทำอะไร?

นันดา “นันชอบคำนวณมาก อยากทำอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับคำนวณ ที่ต้อง
คิดเลข นันชอบทำภาษี ตอนนี้นันก็ช่วยพวกนางแบบที่นิวยอร์ก
ทำเรื่องภาษี คือนันเข้าใจวงการโมเดลลิ่งไง นันทำมาตลอดแล้ว
ก็จะบอกเขาได้ว่าตรงนี้ต้องจ่ายภาษี ตรงนี้จะช่วยลดหย่อนได้
ก็อยากทำภาษีให้พวกน้อง ๆ ที่เพิ่งเริ่มเข้าไปว่าทำยังไง
คือจริง ๆ นันอยากเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินให้นางแบบด้วย
เพราะสมมุติว่านางแบบวันนี้ทำเงินได้ 1 ล้าน พรุ่งนี้อาจจะ
ไม่ได้เงินเลย เราก็ต้องเรียนรู้ว่าเราจะต้องประหยัดยังไง
จะใช้เงินยังไงอีก 10-20 ปี”


คำถาม มองวงการนางแบบทุกวันนี้ยังไงบ้าง?

นันดา “สมัยนี้เรามั่นใจในวงการนี้ เพราะดีกว่าเมื่อก่อนมาก สำหรับคน
ที่จะเข้ามาในวงการก็อยากจะแนะนำว่าให้เป็นตัวของตัวเอง
คือปรับตัวได้แต่อย่าเปลี่ยนตัวเอง อย่าลืมว่าตัวเองเป็นยังไง อย่า
คิดว่าเราเก่งกว่าที่เราเป็น อย่าคิดว่าด้อยกว่าที่เราเป็น เราต้อง
รู้จักประมาณตัวเองถึงจะอยู่วงการนี้ได้นานค่ะ”


พอคุยมาถึงตรงนี้เราไม่รู้สึกแปลกใจว่าทำไม “นันดา”
ถึงยืนหยัดอยู่ในวงการนางแบบระดับโลกมาได้นานถึง
13 ปี นั่นเพราะความเป็นมืออาชีพและความ
สามารถของเธอล้วน ๆ.



 





 
 

Box Office

เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.
เรื่อง
ล่าสุด
รวม
1.
2.
3.
4.
5.

บทสัมภาษณ์ทั้งหมด

 
หน้าแรกย้อนกลับ [ 9 ][ 10 ][ 11 ] 12 13 ][ 14 ][ 15 ]...[ 31 ][ 32 ] หน้าถัดไปหน้าสุดท้าย
 
 

ติดตามหนังดี : Youtube Instagram Facebook Twitter  

MMM Digital Asset Co.,Ltd.
109 อาคารซีซีที ชั้น 2 ถนนสุรวงศ์
แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
Tel. 0-2234-7535    FAX. 0-2634-4269
E-mail: webmaster@nangdee.com   © 2006 nangdee.com
แผนที่ | sitemap | ติดต่อโฆษณา